“รองนายกฯสมศักดิ์” ห่วง กองทุนหมู่บ้าน ที่ขาดการติดต่อ 1.6 หมื่นกองทุน สั่ง เร่งช่วยเหลือ ย้ำ ต้องทำให้สมาชิกหมดหนี้ ชี้ ผู้ตั้งกองทุนหมู่บ้าน “อดีตนายกฯทักษิณ”กลับมาแล้ว เชื่อ ช่วยสานงานต่อแน่นอน เผย ต้องการช่วยเหลือคนชนบท จึงต่อสู้ให้เลี้ยงวัวมา 20 ปีแล้ว ปลื้ม โครงการเลี้ยงโค กำลังเดินหน้า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงการดำเนินงาน โครงการติดตามประเมินผลสถานะการเงินและศักยภาพการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เข้าร่วม ที่โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กทม.
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เพราะกองทุนหมู่บ้านฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งมีกองทุนหมู่บ้านฯเติบโต 79,610 กองทุน แต่ยังมี 16,047 กองทุน ที่ไม่สามารถดำเนินการ หรือ ส่งงบการเงินตามระเบียบของกองทุนหมู่บ้านได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย แต่ถ้าเราพัฒนาระบบที่ดี และทำให้เกิดความเข้าใจ รวมถึงมีจิตใจสู้ ก็จะสามารถก้าวพ้นจากการเป็นหนี้สินได้ โดยจากนี้ ตนก็ขอให้ช่วยกันทำให้กองทุนที่หายไป สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้ง
“เราต้องช่วยกันทำให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ไม่เป็นหนี้สินอีก รวมถึงต้องช่วยเหลือกองทุนที่ไม่ส่งงบการเงิน เพราะเราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งผมตั้งใจช่วยเหลือเกษตรกร ตั้งแต่สมัยเป็น รมว.เกษตรฯ ที่ต้องการแก้ปัญหาความยากจน ให้กับคนชนบท จึงต่อสู้เรื่องการส่งเสริมเลี้ยงวัวมาถึงทุกวันนี้ โดยถ้ามีการเลี้ยงวัวเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันก็จะช่วยให้ประชาชน มีกำลังซื้อมากขึ้น แต่ด้วยสถานกาณ์การเมือง จึงทำให้โครงการไม่ต่อเนื่อง แต่วันนี้โอกาสมาถึงแล้ว อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ตั้งกองทุนหมู่บ้านฯ ได้กลับมาแล้ว ผมเชื่อว่า ท่านไม่ทิ้งแน่นอน และพร้อมสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านฯ สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 13 ล้านครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงวัวอย่างเดียว แต่ถ้ายังคิดอะไรไม่ออก ก็ให้เลี้ยงวัวไปก่อน เพราะจากโครงการเลี้ยงวัวนำร่อง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากเริ่มต้นเลี้ยง 2 ตัว ผ่านมา 4 ปี เพิ่มเป็น 10 ตัวแล้ว มีมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท ดังนั้น ถ้าเลี้ยง 1 ล้านครอบครัว ก็จะมีมูลค่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ ส่วนราคาวัวตกต่ำ ก็ขอยืนยันว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนการส่งออกต่างประเทศ หรือ การกักกันสัตว์ เพราะต่างประเทศ จะไม่ซื้อเราถ้ามีโรคติดต่อ จึงขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าแก้ปัญหา อย่าง ยางพารา พอรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เข้ามาบริหาร ราคาก็ดีขึ้น ดังนั้น ขอย้ำว่า รัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทั้งหมดแล้ว