“สมศักดิ์” จูงมือ “พิมพ์พิชชา-จเด็ศ” หาเสียงพิษณุโลก มั่นใจดึงเก้าอี้จากเด็กเก่าคืนมาได้ 

“สมศักดิ์” เดินไม่หยุด จูงมือ “พิมพ์พิชชา-จเด็ศ” หาเสียงพิษณุโลก มั่นใจดึงเก้าอี้จากเด็กเก่าคืนมาได้ เชื่อ เป็นผู้แทนที่ดี ไม่ทิ้งประชาชน ชู นโยบายเพื่อไทย ส่งเสริมเกษตรกร-เพิ่มพื้นที่ชลประทาน ตั้งโต๊ะฟังความเห็น เปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด หวังลดคดีพิพาท ขณะที่ “จเด็ศ” ลั่น ลงพื้นที่ 7 เดือน บ้านใหญ่เพื่อไทย สู้บ้านใหญ่ตระกูลดังได้สบาย หลังเห็นแววตาประชาชนอยากเปลี่ยนแปลง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.หลายสมัย ได้ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 3 จุด คือ วัดสามเรือน อำเภอบางกระทุ่ม ศูนย์ประสานงานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอวังทอง และ ศูนย์ประสานงานแผนท้องถิ่นประจำ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อปราศรัยช่วย นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 เบอร์ 2 และ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 4 เบอร์ 5 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วม 3 เวทีกว่า 8,000 คน 

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนเห็นพี่น้องประชาชน นั่งฟังปราศรัยอากาศร้อน แต่ก็ยังรอคอยให้กำลังใจผู้สมัครของเรา ทำให้ตนมีความรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก และวันนี้ถือว่า พี่น้องชาวพิษณุโลกโชคดีมาก ที่พรรคเพื่อไทย เน้นนโยบายส่งเสริมเกษตรกร ทั้งเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร และเพิ่มพื้นที่ชลประทาน เนื่องจากชาวพิษณุโลก มีปัญหาเรื่องน้ำ พรรคเพื่อไทย จึงมีนโยบายเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ให้ได้ปีละ 3 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยปัญหาของเกษตรกร ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรทุกตัวขยับขึ้น เหมือนในสมัยของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวันนี้ พี่น้องประชาชนชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นอย่างมาก ขนาดในพื้นที่ภาคใต้ ยังชื่นชอบ เนื่องจากเห็นผลงานในอดีตที่อดีตนายกฯทักษิณ สามารถทำให้ราคายางพาราสูงขึ้นได้ 

“ผมได้รับคำสั่งจากพรรคเพื่อไทย มาว่า ต้องดูแลนายจเด็ศให้ดี เพราะเป็นคนหนุ่มไฟแรงนิสัยดี ซึ่งเต็มใจเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน โดยผมมั่นใจว่า นายจเด็ศ จะเป็นผู้แทนที่ดี ไม่ทิ้งประชาชน และสิ่งที่นายจเด็ศ ตั้งปณิธานไว้ ก็จะเป็นความจริง เพราะประชาชน จะให้กำลังใจด้วยการลงคะแนนให้ เนื่องจากชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่จะให้ทุกนโยบายขับเคลื่อนได้ พี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันเลือกทั้งคน และพรรค เบอร์ 29 ให้แลนด์สไลด์ เพราะถ้าเป็นรัฐบาลผสม จะทำให้นโยบายไม่ได้ขับเคลื่อนทุกข้อ” นายสมศักดิ์ กล่าว 

ขณะที่ นายจเด็ศ กล่าวว่า ในจังหวัดพิษณุโลก มีปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีนโยบายปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้นและเห็นผลได้จริง เนื่องจากนายสมศักดิ์ ได้วางรากฐานในมาตรการใหม่ ที่เน้นยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดไว้แล้ว ดังนั้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ส่วนกัญชา ตนยืนยันว่า เห็นด้วยที่ใช้เพื่อทางการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้สันทนาการ เพราะตนได้รับเสียงสะท้อนจำนวนมากว่า ลูกหลานถือกัญชาเข้าบ้าน พร้อมบอกว่า ไม่ผิดกฎหมายแล้ว ทำให้ไม่สามารถห้ามลูกหลานได้เลย ดังนั้น เราต้องช่วยกันเอากัญชาคืนไป แล้วเอาลูกหลานคืนมา โดยตนลงการเมืองครั้งแรก หลายคนถามว่า จะสู้บ้านใหญ่ไหวหรือไม่ ตนจึงขอตอบว่า ตลอด 7 เดือนที่ลงพื้นที่ ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว ได้เห็นแววตาของพี่น้องประชาชน ที่อยากเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเชื่อมั่นว่า บ้านใหญ่เพื่อไทย ใหญ่ไม่แพ้ใคร เพราะเราเป็นบ้านของประชาชน ซึ่งจะสามารถสู้จนชนะได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ภายหลังการปราศรัย นายสมศักดิ์ ยังได้ลงพื้นที่อำเภอบางกระทุ่ม เพื่อรับฟังปัญหาประตูน้ำชลประทานชำรุดเสียหาย โดยไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลให้ประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก จากนั้น ได้เดินทางต่อไปที่ ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง เพื่อรับฟังปัญหาที่ดิน สปก. ซึ่งพี่น้องประชาชน ได้สะท้อนว่า อยากให้ สปก.เป็นโฉนด จะได้รับสิทธิจำนวนมาก รวมถึงจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ในกรณีเกิดการพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ อีกต่อไป 

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด เพราะเราตั้งใจที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกร เนื่องจากทราบถึงปัญหาเป็นอย่างดี จึงต้องการทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข รวมถึงจะช่วยแก้ปัญหามีคดีพิพาทอีกด้วย เพราะจากที่ตนรับฟังเสียงสะท้อน ได้ทราบว่า ประชาชน มีคดีพิพาทจำนวนมาก โดยเป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน ดังนั้น นอกจากพรรคเพื่อไทย จะช่วยให้สปก.เป็นโฉนดแล้ว ตนยังได้ให้ผู้สมัครของพรรค คอยประสานพาผู้ที่เดือดร้อนจากคดีพิพาท ไปยื่นเรื่องกับกองทุนยุติธรรม ที่ตนได้ขับเคลื่อนเอาไว้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในการดำเนินคดี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย

แสดงความเห็น