นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่าในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายและกระทู้ถามที่จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์นี้ ส่วนวันศุกร์ เป็นการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ ซึ่งในเรื่องการพิจารณากฎหมายที่ต้องพิจารณาคือกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารท้องถิ่นและเรื่องการขนส่งทางราง ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง มีคนเห็นต่างเป็นจำนวนมาก จึงอาจต้องใช้เวลา และพิจารณาร่างกฎหมายกัญชา – กัญชง ไม่ทันในสัปดาห์นี้ หรือหากเสนอให้พิจารณาทัน ก็คงจะไม่สามารถลงมติได้ในวันพรุ่งนี้
นายสุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองรับคำฟ้องกรณีขอให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดว่า การที่ยื่นฟ้องศาลเพราะหวังว่า ต้องการให้ออกกฎหมายให้ครอบคลุมที่สุด แต่ไม่รู้ว่า กฎหมาย กัญชา-กัญชง จะผ่านสภาเมื่อใด ในระหว่างนี้ หากไม่มีกฎหมายอะไรมาควบคุมได้ดีพอ เราจึงเห็นว่า ควรให้ศาลยกเลิกประกาศดังกล่าวเพื่อให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติด จะดีกว่า อยากให้เซฟในช่วงที่เป็นสุญญากาศ
นายสุทิน ยังกล่าวมติของที่ประชุมวุฒิสภา ตั้งกรรมาธิการสามัญ พิจารณาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปพร้อมกับการเลือกตั้งว่า การที่เสนอให้ทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งเพื่อไม่ต้องการให้เสียเวลา แต่การที่วุฒิสภา ตั้งกรรมาธิการฯ ขึ้นมาศึกษาก็ต้องรับผิดชอบว่า การเลือกแนวทางดังกล่าวจะทันกับการเลือกตั้งที่จะต้องทำประชามติหรือไม่ หากตั้งโดยไม่รู้เวลา ก็จะเข้าข่ายว่ายื้อ
ส่วนกระแสข่าวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติโดยแยกกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่อยู่พรรคพลังประชารัฐ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ยังไม่มีใครรู้แน่ มีแต่พฤติกรรมทั่วไป แต่การที่จะไปหรือไม่ไป ก็จะสะท้อนถึงเอกภาพ ซึ่งความเคลื่อนไหวของทั้ ง2 คน ทำให้การเมืองผันผวนได้ ถ้าแยกกันเป้าหมายคืออะไร ถ้าแยกกันเดินอาจต้องช่วงชิง หักเหลี่ยมในสภา แต่ในส่วนของฝ่ายค้าน ถือว่าไม่มีผล แต่อยากให้ไปด้วยกันทั้ง 2 คน เพื่อจะได้แบ่งขั้วกันให้ชัดเจน
ทั้งนี้ประธานวิปฝ่ายค้าน เชื่อว่า การยุบสภา คงเกิดขึ้นได้ไม่ง่าย ในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้เพราะการจะยุบ จะต้องได้เปรียบ จะต้องชนะ หากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่เชื่อว่าที่ไม่ยุบ เพราะงบประมาณปี 2566 ยังเป็นข้าวใหม่ปลามัน จึงยังไม่น่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้น
