เบื้องหลังโผปาร์ตี้ลิสต์ “รทสช.” “บิ๊กตู่”ไม่ลง-เสี่ยเฮ้ง วิ่งขึ้นบัญชีรายชื่อ 

หลายพรรคการเมืองตอนนี้ เร่งทำ “โผบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์” เพื่อเตรียมส่งไปยังสาขาพรรคประจำจังหวัด-ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ให้เรียกประชุมสมาชิกพรรคเพื่อทำ “ไพรมารีโหวต”โผว่าที่ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่แต่ละพรรคการเมืองทำบัญชีไว้

ที่ตามกฎหมายพรรคการเมือง ให้สมาชิกลงมติหรือทำความเห็นว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับรายชื่อที่ส่งมาเท่านั้น  ไม่สามารถไปขอแก้ไขหรือขอให้เพิ่มชื่อ-ตัดชื่อได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คาดว่าจะเห็นชอบตามที่ส่งไปอยู่แล้ว

โดยการทำไพรมารีโหวตครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งประเทศไทย ที่จะมีการทำไพรมารีโหวต ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ทั่วประเทศ ตามที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีสาขาพรรค-ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด อยู่ในจังหวัดต่างๆ 

ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ได้บัญญัติเรื่องกระบวนการทำไพรมารีโหวตไว้ว่า ไม่ต้องเรียงลำดับหมายเลข 1-100 เพราะการใส่หมายเลข ให้ทำหลังเสร็จสิ้นการทำไพรมารีโหวต โดยให้เป็นอำนาจการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะพิจารณา 

ที่ก็แน่นอนว่า ลำดับต้นๆ โดยเฉพาะ 1-15 คนแรก ก็มักจะเป็นคนสำคัญของพรรค เช่นหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค ที่ลงปาร์ตี้ลิสต์ พวกกรรมการบริหารพรรค นายทุนพรรค คนที่มาช่วยงานพรรคด้านต่างๆ เช่น เขียนนโยบายพรรค เป็นต้น แต่ก็มีบางพรรค แกนนำอาจไม่มีชื่ออยู่ในโผปาร์ตี้ลิสต์เลยก็ได้ เพราะรอลุ้นเป็นรัฐมนตรีเป็นหลัก หากพรรคต้นสังกัดได้เป็นรัฐบาล ดูได้จากกรณี “พรรคเพื่อไทย”ที่ไม่มีชื่อทั้ง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร -เศรษฐา ทวีสิน -นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เป็นต้น ทั้งที่สามคนดังกล่าวมีบทบาทสูงมากในพรรคเพื่อไทยเวลานี้ แต่ไม่มีชื่ออยู่ในโผปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยที่ส่งไปทำไพรมารีโหวต ก็เพราะทั้งสามชื่อนี้รอลุ้นเป็นนายกฯ และรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง เป็นหลักนั่นเอง

และมองสแกนความเคลื่อนไหวการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคคู่แข่งพรรคเพื่อไทยอีกหนึ่งพรรค นั่นก็คือ รวมไทยสร้างชาติ”(รสทช.)หรือ “พรรคลุงตู่”ที่ล่าสุด พลิกเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯสองชื่อ จากเดิมแค่พลเอกประยุทธ์คนเดียว ก็เพิ่ม “เดอะตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค”หัวหน้าพรรค เพื่อนรัก พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ บิ๊กแดง อดีตผบ.ทบ.ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งใหญ่มากมาย ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่สองของรทสช. 

บอกได้เลยว่า การที่บิ๊กตู่-รทสช. พลิกเสนอชื่อพีระพันธุ์ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชื่อ เบื้องลึกเบื้องหลังของการปรับหมากครั้งนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน 

เพราะเป็นการปรับแผนการเดินทางการเมืองของรวมไทยสร้างชาติ-พลเอกประยุทธ์และพีระพันธุ์ ที่มีนัยยะการเมืองหลายอย่างอยู่หลังฉาก บนเป้าหมายคือ เพื่อทำให้ฝ่ายขั้วอำนาจรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะสายพลเอกประยุทธ์ ยังสามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อีกครั้งหลังเลือกตั้ง แต่นายกฯอาจไม่ใช่ พลเอกประยุทธ์ ก็ได้ !

ซึ่งเบื้องหลังเรื่องนี้ เราจะนำมาบอกเล่ากันอีกครั้งในโอกาสต่อไป

แต่ประเด็นเฉพาะหน้าที่ต้องติดตามต่อจากนี้ ก็คือ “การทำโผปาร์ตี้ลิสต์ของรวมไทยสร้างชาติ” ที่ข่าวว่า ลงตัวเกือบหมดแล้ว 100 ชื่อเพื่อส่งไปทำไพรมารีโหวต แต่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย อีกประมาณ 5-7 รายชื่อ

เช่น ล่าสุด “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน” อดีต ส.ส.เขต 1 ชลบุรี หัวหน้าทีมดูแลพื้นที่เลือกตั้งชลบุรี ที่มี 10 เก้าอี้และอีกหลายจังหวัดในภาคตะวันออก ได้เปลี่ยนใจในช่วงโค้งสุดท้าย ด้วยการ แจ้งกับพรรคว่าขอลงสมัครระบบปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ขอลงเขตแล้ว  โดยจะส่งน.ส.ณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลเสม็ด ซึ่งเป็นน้องของภริยา ลงเลือกตั้งส.ส.เขต 1 ชลบุรี แทน  และจะได้มีเวลามากขึ้นในการไปช่วยลูกทีมหาเสียงในหลายจังหวัด 

แบบนี้เลยไม่รู้ว่า จะทำให้สนามเลือกตั้ง ชลบุรี ที่แข่งกันหนักระหว่าง สุชาติ จากรวมไทยสร้างชาติกับ สนธยา คุณปลื้มจากเพื่อไทย และยังมีตัวสอดแทรกทั้ง ก้าวไกลและพลังประชารัฐอีก แต่พอ สุชาติ ไปขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ ก็อาจทำให้สนามเลือกตั้งชลบุรี อาจลดความร้อนแรงลงมาก็ได้ 

แต่ที่น่าสนใจก็คือ มีกระแสข่าวว่า โผปาร์ตี้ลิสต์ของรวมไทยสร้างชาติ สุดท้าย อาจจะไม่มีชื่อ “บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์”ลงสมัครเสียแล้ว

หลังก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า พลเอกประยุทธ์จะลง และจะอยู่ในลำดับที่  1 เพื่อเตรียมตัวเข้าไปเป็นส.ส.ครั้งแรกในชีวิต แต่แล้วปรากฏว่ามีข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ แจ้งกับคนในพรรคว่าจะขอเป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเดียว ไม่ลงสมัครส.ส. แต่ก็มีข่าวว่า คนในพรรครทสช.บางส่วน ก็พยายามโน้มน้าวขอให้ พลเอกประยุทธ์เปลี่ยนใจ เพราะมองว่าหากพลเอกประยุทธ์ลงปาร์ตี้ลิสต์ ก็จะช่วยดึงคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคได้ รอดูกันต่อไปว่า พลเอกประยุทธ์ จะเปลี่ยนใจหรือไม่ เพราะยังมีเวลาอยู่จนถึงประมาณต้นๆ สัปดาห์นี้  

ส่วนชื่อแกนนำพรรครทสช.คนอื่นๆ ก็คาดว่าจะลงสมัครทั้งหมด ทั้ง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค -นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค -ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกฯ-จุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ -วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง กรรมการบริหารพรรค เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี -นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ 

และยังมี ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก นายชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สมาชิกพรรค นายวินท์ สุธีรชัย อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ก็มีข่าวว่า บางกลุ่มในพรรครทสช. เริ่มไม่พอใจเพราะรู้ข่าวว่าชื่อของตัวเองไม่อยู่ในลำดับต้นๆ ที่จะเป็นเซฟโซนทางการเมืองที่ทำให้มั่นใจได้ว่า จะได้เข้าไปเป็นส.ส.หลังเลือกตั้ง รวมถึงชักมีอาการตึงๆ เพราะชื่อคนในกลุ่ม ที่ต้องการให้พรรคใส่ไว้ในโผปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ได้รับการพิจารณา 

เลยมีข่าวสะพัดว่า ทำให้การพิจารณาทำโผปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรครทสช.ยังไม่นิ่ง อาจมีการปรับเปลี่ยน ตัดชื่อ-เพิ่มชื่อได้ตลอดเวลา จนกว่าจะเคาะลงตัวก่อนส่งไปทำไพรมารีโหวตในสัปดาห์นี้ เพราะแม้ โผปาร์ตี้ลิสต์ ที่ส่งไปทำไพรมารีโหวต จะไม่เรียงลำดับหมายเลข แต่ในความเป็นจริง โผของทุกพรรคมีการเรียงลำดับหมายเลขไว้หมดแล้ว แต่รู้กันแค่ไม่กี่คนในพรรค เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมภายในพรรค จากคนที่ไม่พอใจโผที่ทำขึ้น หากรู้การจัดลำดับก่อนนำชื่อไปยื่นกับกกต.วันที่ 4 เม.ย. 

โดยข่าวว่า เริ่มมีบางกลุ่มในพรรครวมไทยสร้างชาติเริ่มไม่พอใจ เพราะไม่ได้รับการตอบสนองในทางบวกในการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ เช่น “กลุ่มอดีตแนวร่วมเสื้อแดง ภาคอีสาน” ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรครทสช. ผ่านการประสานจากนายเสกสกล หรือแรมโบ้ อดีตแกนนำนปช. และนายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธหิ รวมถึงเคยไปร่วมพูดคุยกับวิทยา แก้วภราดัย แกนนำพรรคที่ดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคอีสานให้พรรครทสช. ตอนที่นายวิทยา ลงพื้นที่อีสานเพื่อหาตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ภาคอีสาน หลายจังหวัด ที่มีการไปดึงอดีตแนวร่วมเสื้อแดงภาคอีสานให้มาลงสมัครส.ส.เขต พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งหลายคนก็ได้ตอบรับ และเคยไปร่วมเปิดตัวทำกิจกรรมการเมืองในพื้นที่กับแกนนำพรรครทสช.มาแล้วหลายครั้ง โดยมีการประสานว่าจะขอให้กลุ่มอดีตเสื้อแดงภาคอีสาน บางส่วนได้ลงสมัคร ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องได้ลำดับต้นๆ ก็ได้ 

มีรายงานว่า ในช่วงนี้ ที่กำลังมีการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อส่งไปทำไพรมารีโหวต กลุ่มแนวร่วมเสื้อแดงอีสาน ได้พยายามประสานไปยังแกนนำพรรคที่รับผิดชอบการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อขอให้นำชื่อไปใส่ไว้ในโผที่จะส่งไปทำไพรมารีโหวตด้วย  แต่เมื่อมีการนำชื่อไปส่ง ก็ไม่ได้รับสัญญาณว่าจะนำชื่อไปใส่ไว้แต่อย่างใด

ทำให้กลุ่มแนวร่วมเสื้อแดงอีสานดังกล่าว ประเมินว่า คงไม่มีการนำชื่อไปใส่ไว้ ทั้งที่ยังเป็นโผที่ไม่ได้ใส่ลำดับหมายเลข เลยมีการแสดงความไม่พอใจผ่านนายเสกสกล เพื่อขอให้แรมโบ้ นำเรื่องไปแจ้งต่อพลเอกประยุทธ์และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว 

“อดีตแนวร่วมเสื้อแดงบางคนที่มาช่วยงานรวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะเรื่องงานมวลชน เวลานายกฯไปราชการต่างจังหวัดในหลายพื้นที่เช่นที่ภาคเหนือ อีสาน ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับคำชมจากนายกฯมาก ที่มาช่วยกันสร้างความปรองดองในชาติ พยายามดึงคนเสื้อแดงให้มาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และรวมไทยสร้างชาติ เช่นนายสิระ พิมพ์กลาง อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อนไทย อดีตแนวร่วมเสื้อแดงส่วนกลางและอีสาน ที่แรมโบ้ดึงมาช่วยงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง มีเครือข่ายในภาคอีสานและพี่น้องเสื้อแดงจำนวนมาก ที่ผ่านมา ก็มาช่วยงานพรรคหลายอย่าง เช่นการเตรียมเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคที่โคราช ที่พลเอกประยุทธ์ไปขึ้นเวที คนแบบนี้ ข่าวว่า แรมโบ้ ก็พยายามผลักดันให้มีชื่อในโผปาร์ตี้ลิสต์อยู่แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้กลุ่มเสื้อแดงภาคอีสานหลายจังหวัดที่มาเป็นแนวร่วมให้รวมไทยสร้างชาติ ก็กำลังรอคำตอบอยู่ว่า พรรคจะสนับสนุนคนเหล่านี้อย่างนายสิระ มากน้อยแค่ไหน”แหล่งข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติให้ข้อมูลมาถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ของพรรครทสช. 

ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของพลเอกประยุทธ์และรวมไทยสร้างชาติ ที่เราสกีนมาเล่าสู่กันฟังด้วยข้อมูลเชิงปิดลับ 

Exit mobile version