‘ท่าเรือ’ อาภัพโค้ช ‘คนที่ใช่’ ต้องหน้าตาแบบไหน

DST.Special Report : เรียบร้อยโรงเรียนท่าเรือไปอีกคน สำหรับ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ กุนซือชาวไอริช หลัง ‘สิงห์เจ้าท่า’ประกาศแยกทาง เซ่นผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

‘สิงห์เจ้าท่า’ ภายใต้การดีไซน์เกมของ ‘คูเปอร์’ เล่นไป 13 นัดในลีก ชนะเพียง 5 นัด แพ้ 1 นัด และเสมอไปถึง 7 นัด รั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน

แม้ ‘คูเปอร์’ จะทำให้ ‘ท่าเรือ’ กลายเป็นทีมแพ้ยาก แต่ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า เป็นทีมที่ชนะยากเช่นกัน 

และผลลัพธ์แบบ ‘รักเสมอ’ ในสายตาผู้บริหารมันคือ ‘ความเลวไม่มี ความดีไม่ปรากฏ’

พูดง่ายๆ คือ ผลงานมันไม่สอดคล้องกับเม็ดเงินที่การท่าเรือหว่านลงไปในตลาดนักเตะนั่นแหละ

ฉายา ‘สโมสรกินโค้ช’ มันคงเป็นเรื่องคุ้นชินสำหรับ ‘สาวกสิงห์เจ้าท่า’ กันไปเสียแล้ว เพราะถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใช้กุนซือค่อนข้างเปลือง 

ก่อนหน้านี้ ‘การท่าเรือ’ เป็นหนึ่งทีมที่เคยถูกค่อนแคะว่า ติดอยู่ในลูปนรก ชอบหมุนเวียนใช้บริการเฮดโค้ชจนโดนแซวว่า‘มูฟออนเป็นรูปวงกลม’ กระทั่งการมาของ ‘คูเปอร์’ ที่แฟนๆ เริ่มมีความหวังว่า หลุดออกจากหล่มนี้ได้สักที

แต่แล้วเวลาของ ‘คูเปอร์’ มีเพียง 13 นัดเท่านั้น ‘การท่าเรือ’ ก็กลับเข้าสู่โหมดเปลี่ยนโค้ชอีกครั้ง

ไม่ผิดหรอก หากผู้บริหารจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อหาจุดเปลี่ยนให้ทีมกระเตื้องขึ้น เพียงวิธีการ ‘เปลี่ยนโค้ช’ มันถูกลองใช้มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เวิร์คสักรอบ

มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่ ‘คูเปอร์’ ต้องเก็บของออกจากคลองเตย เพราะทรงบอลของเขามันจืด เล่นแบบรัดกุม ไม่กล้าเสี่ยง 

แม้เวลาเจอทีมใหญ่ด้วยกัน จะไม่ปราชัย แต่กับทีมเล็กๆ ก็ชนะยากเย็นซะเหลือเกิน

แต่ถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีโค้ชที่เน้นฟุตบอลเกมบุกหรือไม่ คำตอบคือ มี แต่สิ่งที่ได้คือ เกมรับไม่แน่นหนา เสียประตูง่าย

เรียกว่า ยังไม่เจอ ‘คนที่ใช่’ 

แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับทีม ‘อาภัพโค้ช’ อย่างการท่าเรือ

คำตอบคือ ‘โค้ช’ ที่มีแนวทางการทำฟุตบอลเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน 

เพียงแต่ เมื่อ ‘โค้ช’ มีสไตล์แล้ว ‘นักเตะ’ ในทีมต้องเข้ากับระบบนั้นด้วย

คำถามคือ ที่ผ่านมา ‘โค้ช’ หลายคนของท่าเรือ ได้นักเตะที่ตัวเองต้องการหรือไม่ 

โค้ชเป็นคนเลือกนักเตะ หรือผู้บริหารเป็นคนเลือก ในทีนี้ยังรวมถึงการจัดตัว-เปลี่ยนตัวผู้เล่นในแต่ละเกม ว่าสิทธิ์เด็ดขาดอยู่ที่ ‘โค้ช’ หรือไม่

ท่าเรือเป็นทีมที่ถูกล้อมากเป็นลำดับต้นๆ ว่า ‘บริหารแบบครอบครัว’ และมักมี ‘โควตาลูกรัก’ ที่มักได้ลงแบบขัดใจผู้ชม

เหล่านี้ถ้ามีจริง ควรเปลี่ยนหรือไม่หากต้องการประสบความสำเร็จ

ทรัพยากรนักเตะในสโมสรท่าเรือ ต้องบอกว่าเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงหลายคน แต่นักเตะเหล่านี้ถูกจริตกับทีมจริงหรือไม่

จะพูดไปบางครั้งก็แอบคิดว่า ท่าเรือกำลังหา ‘โค้ช’ ที่เล่นเข้ากับนักเตะที่ตัวเองมีอยู่ ทั้งที่โดยความจริง ต้องหานักเตะที่เข้ากับ ‘โค้ช’

ไม่เช่นนั้นเปลี่ยนกี่รอบๆ จะเจอผลลัพธ์แบบนี้

บางทีสโมสรอาจต้องยอมกลืนเลือด เพื่อกลับไปตั้งต้นใหม่โดยเริ่มตั้งแต่ ‘นับหนึ่ง’

นั่นคือ ลดโจทย์ไขว่คว้าความสำเร็จแบบติดจรวด แล้วค่อยๆ สร้างทีมให้เป็นบอลที่มีระบบ มีสไตล์การเล่นของตัวเองที่ชัดเจน

อยากได้สไตล์ไหน ก็ไปเลือก ‘โค้ช’ คนนั้น แล้วให้อภิสิทธิ์ในการสร้างทีม แบบ ‘ไว้เนื้อเชื่อใจ’ และแบบ ‘ใจเย็น’

ของแบบนี้ต้องใช้เวลา ดอกผลอาจไม่เกิดขึ้นในปีแรก

แต่หากเล่นเปลี่ยนกลางคันบ่อยๆ สุดท้ายทั้งทีม ทั้งนักเตะ ก็ต้องปรับตัวในกลางศึกทั้งนั้น

มันน้อยที่จะเจอ ‘คนที่ใช่’ ในสิ่งที่เป็นอยู่

พูดคือ ยอมเจ็บเพื่อ ‘ปฏิรูป’.

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : การท่าเรือ เอฟซี Port FC

แสดงความเห็น