ลูปก้าวไม่พ้น ‘อาเซียน’ วนเวียนดึงขาวงการลูกหนัง

DST.Special Report : ครั้งนี้เห็นด้วยกับ ‘เนวิน ชิดชอบ’ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ออกมาเบิร์ดกระโหลกสมาคมฟุตบอลฯ หลังยกเลิกการแข่งขันช่วงฟีฟ่าเดย์ ในเดือนมีนาคม 2566 

เพื่อจะขยับให้ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลนี้จบเร็วขึ้น เพื่อหลีกทางให้ ‘ซีเกมส์’ ที่กัมพูชา จะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า

‘เนวิน’ ใช้คำว่า ‘เลิกฝัน’ เรื่องฟุตบอลโลกได้เลย ถ้าสมาคมยังคิดจะไล่ล่าความสำเร็จในพื้นที่เล็กๆ แบบนี้

แทนที่จะสนับสนุนลีกซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนานักเตะ แต่ดันไปยกเลิกปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ที่มีผลต่อแรงค์กิ้ง มิหนำซ้ำยังร่นการปิดฤดูกาลให้เร็วขึ้น 

การอัดโปรแกรมไทยลีกเพื่อให้จบฤดูกาลเร็ว ในมุมของ ‘เนวิน’ มันอาจทำให้เสียหายทั้งสโมสรและทีมชาติในกรณีนักเตะได้รับความบาดเจ็บขึ้นมา

สโมสรก็ไม่ได้ใช้ ทีมชาติก็ไม่ได้ใช้!

หลายคนอาจจะเข้าไปค่อนแคะ ‘เนวิน’ ว่า มีส่วนสำคัญในการผลักดัน ‘บิ๊กอ๊อด’ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ขึ้นมาเป็นประมุขลูกหนังของไทย แล้วจะมาบ่นอะไร ตรงนี้มองว่า มันเป็นคนละประเด็นกัน

มีส่วนหรือไม่มีส่วนนั่นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เราต้องฟังคือ เหตุผลการคัดค้านครั้งนี้ของ ‘เนวิน’ ฟังขึ้น

แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก ที่เราเจอกันบริหารจัดการในลักษณะนี้ แต่พบทุกครั้งเวลามีโปรแกรมซีเกมส์ และชิงแชมป์จ้าวอาเซียน

เรื่องก้าวข้าม ‘อาเซียน’ เราพูดกันมาบ่อยครั้งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการ โค้ช นักเตะ ว่า เวทีนี้ควรจะเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นดาวรุ่ง และหน้าใหม่ๆ ไปลงเล่น

เราควรโฟกัสไปที่ทัวร์นาเมนต์สำคัญ ชิงแชมป์เอเชีย หรือการเตะกระชับมิตรที่ตรงกับฟีฟ่าเดย์ ที่มีผลต่อเป้าหมายที่เราหวังในอนาคต

เรื่องนี้จะว่าไปมันแทบจะเป็น ‘ฉันทามติทางความคิด’ ของคนส่วนใหญ่ เว้นแต่สมาคมฯ ที่ไม่ได้ยิน หรือได้ยิน แต่ทำตัวหูทวนลม

ไม่ใช่ว่า เราไม่ให้ความสำคัญกับการแข่งขันซีเกมส์ หรืออาเซียนคัพ แต่เราควรจะเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง

หลายชาติในอาเซียนเขาปรับวิธีคิดเรื่องนี้กันแล้ว อย่างศึกอาเซียนคัพคราวก่อน เห็นหรือไม่ว่า อินโดนีเซีย กล้าที่จะส่งนักเตะดาวรุ่งมาหาประสบการณ์

พวกเขาอาจไม่ได้แชมป์ แต่ไม่ได้ล้มเหลว นักเตะชุดนั้นกำลังมีพัฒนาการที่แข็งแกร่ง และน่ากลัวมากๆ ในตอนนี้

แล้วทำไมเราถึงยังยึดติดสิ่งนี้? ก้าวมันไม่พ้นเสียที

ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงเพราะกลัวใครหรือ? 

นี่หลายคนตั้งข้อสังเกตสมาคมฯแล้วนะว่า ที่ยอมขยับโปรแกรมขนาดนี้ เพราะประกาศิตของผู้ใหญ่บางคนในรัฐบาลที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่า ซีเกมส์ต้องเหรียญทองเท่านั้น!

คำถามคือ เหรียญทองแล้วไงต่อ? 

วงการฟุตบอลบ้านเรามันพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งหรือ? ส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่ แต่เป็นการ ‘ย่ำอยู่กับที่’ ยินดีกับพื้นที่เล็กๆ อย่างที่ ‘เนวิน’ พูดนั่นแหละ

ต่างกัน หากเราใช้เวทีนี้เปิดโอกาสให้นักเตะดาวรุ่งๆ และหน้าใหม่ๆ ไปชิงชัย ต่อให้ไม่ได้เหรียญทอง แต่ถือว่า ประสบความสำเร็จนะครับ

ประสบความสำเร็จก้าวหนึ่งในการพัฒนาวงการลูกหนังบ้านเราให้เป็น ‘มืออาชีพ’ มากขึ้น

เชื่อเถอะ อาจจะมีบ้างที่บ่นหากไม่ได้ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดไปแล้วพลาดเหรียญทอง แต่จะมีอีกหลายคนเข้าใจว่า เรากำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อวงการลูกหนังบ้านเรา

อย่าว่า แต่บอลโลกเลยครับ ฟุตบอลระดับเอเชียยังยาก ถ้าไม่คิดจะเงื้อเท้าก้าวข้ามความยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้

แล้วอย่ามาบอกว่า อาเซียนยังไม่ได้แชมป์ คิดจะไประดับเอเชีย ประทานโทษนะ นี่เรากำลังพูดถึงการเรียงลำดับความสำคัญ และเรื่องการพัฒนาวงการฟุตบอลให้เป็นมืออาชีพ.

____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย

แสดงความเห็น