DST.Special Report : กลายเป็นกุนซือรายที่ 3 ต่อจาก ‘มาโกโตะ เทกุระโมริ’ และ ‘คาร์ลอส เอดูอาร์โด ปาร์เรร่า’ ที่ต้องแยกทางกับต้นสังกัด
สำหรับ ‘โค้ชวัง’ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ที่ล่าสุดเก็บข้าวเก็บของออกจาก ‘พญาไก่ชน’ หนองบัว พิชญ เอฟซี
มันเป็นสิ่งที่พออนุมานกันได้อยู่แล้วว่า วันนี้จะมาถึง หลังผลงานของ ‘พญาไก่ชน’ ย่ำแย่ นอนกองอยู่ก้นตารางคะแนน
11 นัด ‘โค้ชวัง’ เก็บได้เพียง 4 แต้ม แยกประเภทเป็น ชนะ 1 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง และแพ้ถึง 9 นัด ยิงได้ 5 ประตู และเสียไปถึง 16 ประตู รับบทสถานะ ‘บ๊วย’ ของตารางคะแนน
ไม่มีสัญญาณจะฟื้นคืนชีพ หรือเรียกฟอร์มเก่งจากฤดูกาลก่อนกลับมาได้ สุดท้ายต้องจบลงด้วยความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย
ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ‘พญาไก่ชน’ ตัวนี้ ตีปีกไม่ขึ้น เป็นเพราะความแตกต่างของ ‘ดาวเตะต่างชาติ’
ฤดูกาลที่แล้ว ‘โค้ชวัง’ พาหนองบัว พิชญ เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง-ดุดัน เพราะมี ‘แฮมิลตัน โซอาเรส’ ดาวยิงร่างโย่งยืนอยู่ข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีนักเตะต่างชาติคนอื่นที่ฟอร์มดีด้วยกันอย่างถ้วนทั่วคอยส่งเสริม ไม่ว่าจะเป็น มาห์มูด ดาฮัดฮา, แอร์ตอน ติราบาสซี, ทารอส ทาร์เดลลี, อมานี อกินัลโด
นักเตะต่างชาติของหนองบัว พิชญ เอฟซี เมื่อฤดูกาลก่อนถูกยกให้เป็นดีลต่างชาติที่ถูกฝาถูกตัวที่สุดในตลาดซื้อ-ขาย
แต่ฤดูกาลนี้ นักเตะต่างชาติเหล่านั้นย้ายออกไปเกือบทั้งหมด เหลือแค่ ‘ทาร์เดลลี’ ตัวเดียว ทำให้ ‘โค้ชวัง’ ต้องควานหานักเตะต่างชาติแบบยกแผง
ฮอร์เก เฟลลิเป, อิสลาม บาตรัน อิซดิฮาร, มาร์ลอน เด เฮซุส นี่คือ ต่างชาติหน้าใหม่ที่ถูกดึงเข้ามา แต่แล้วมันกลับทำทดแทนความดุดันที่เคยมีไม่ได้
‘พญาไก่ชน’ ไม่มีทีเด็ดอย่างฤดูกาลก่อนที่คิดอะไรไม่ออก สามารถเสิร์ฟไปให้ ‘แฮมิตัน’ ใช้มันสมองในการดีไซน์การจบสกอร์เอง
ขณะที่นักเตะไทยดูดรอปๆ ลงหลายคน อาจจะเพราะไม่มีตัวต่างชาติที่เจ๋งๆ ในการสอดประสาน
และเมื่อเดินมาถึงเกินครึ่งทางของเลกแรก แต่ฟอร์มยังไม่ฟื้น มันจึงสมเหตุสมผลในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีม นั่นคือ‘ความเปลี่ยนแปลง’ เพื่อ ‘ความหวังใหม่’
เป็นการจากกันบนพื้นฐานความเข้าใจ แฟนๆ หนองบัว พิชญ เอฟซีเองต่างโบกมือบ๊ายบายด้วยมิตรภาพที่สวยงาม
พวกเขารัก ‘โค้ชวัง’ แม้ฤดูกาลนี้ทีมจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม นั่นเพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำให้กับสโมสรมันยิ่งใหญ่นัก แม้จะเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้นในโลกฟุตบอล
‘พญาไก่ชน’ เลื่อนชั้นมาลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาลก่อน พวกเขามีเป้าหมายเดียวคือ ขออยู่รอดปลอดภัยในชั้นบรรยากาศลีกสูงสุดของประเทศ
แต่เจ้าของฉายา ‘วังลันตา’ กลับทำในสิ่งที่เกินเป้าหมาย นั่นคือ พาหนองบัว พิชญ เอฟซี จบฤดูกาลด้วยเลขตัวเดียวในอันดับ 6 มีแต้มเท่ากับอันดับ 5 อย่างเชียงราย ยูไนเต็ด
เกือบๆ จะมีลุ้นโควตาเอซีแอลด้วยซ้ำไป
30 นัดในฤดูกาลก่อน ‘โค้ชวัง’ พาหนองบัว พิชญ เอฟซี เก็บได้ 47 แต้ม แยกย่อยเป็น ชัยชนะ 13 ครั้ง เสมอ 8 ครั้ง และแพ้เพียง 9 นัด
ยิงได้ 42 ประตู ติดท็อปสิบของลีก และเสียไป 35 ประตู
เล่นในบ้านได้อย่างแข็งแกร่ง เปลี่ยนพิชญ สเตเดี้ยมให้เป็น ‘นรกทีมเยือน’
จริงๆ ฝีมือของ ‘โค้ชวัง’ ไม่มีใครกังขา สมัยคุมประจวบ เอฟซี ผู้ชายคนนี้พาทีมม้านอกสายตาคว้าแชมป์ลีกคัพได้ในปี 2562 และตลอดระยะเวลาที่อยู่กับประจวบ ทีมของเขามีการเล่นที่แข็งแกร่ง
เพียงแต่วันนี้อะไรๆ มันไม่ได้ดังใจ
แต่เชื่อว่า ระดับ ‘โค้ชวัง’ ว่างงานไม่นานหรอก.
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : สโมสรหนองบัวพิชญ เอฟซี
แสดงความเห็น
