DST.Special Report : ขอชื่นชม ‘นายกป๊อก’ วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในฐานะ ประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่ออกแถลงการณ์ยกเลิกสัญญากับ ‘วรวุฒิ สุขุนา’ นายทวารดาวรุ่ง หลังดื่มสุราและขับรถยนต์ชนคน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
โทษานุโทษนี้ถือว่า ‘เหมาะสม’ กับ ‘การกระทำ’
เพราะน้องไม่ได้เพียงแค่ดื่มสุรา แต่ยังกระทำผิดกฎหมายด้วยการขับรถยนต์ หนักกว่านั้นคือ ไปชนคนจนมีผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต
พูดง่ายๆ คือ การกระทำ ‘ผิดกฎหมาย’ ขณะที่ พฤติกรรมคือ ‘ผิดกับสโมสร’
ฉะนั้น ตามหลักการถือว่า ‘ถูกต้อง’ และทุกสโมสรควรยึดไว้เป็น ‘บรรทัดฐาน’ ต่อไป
เชื่อว่า กรณีของ ‘วรวุฒิ’ น่าจะมีเอฟเฟกต์กับหลายสโมสรในประเทศไทยที่จะต้องหันมากวดขันเรื่องวินัยนักเตะกันอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะกรณี ‘สุรา’
คงไม่แค่เพียงกำชับกันแค่ว่า ‘ห้ามเมาแล้วขับ’ แต่น่าจะยกระดับไปถึงการ ‘สั่งห้ามดื่ม’
ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราได้ยินกันมาเยอะว่า นักเตะคนนั้นคนนี้เเป็น ‘สายดื่ม-สายปาร์ตี้’ แต่ไม่รู้เพราะชินชาหรือควบคุมยากหรือไม่ เราเลยไม่ให้ความสำคัญจนกระทั่งเกิดกรณีของ ‘วรวุฒิ’
จริงๆ มันไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร หากนักเตะสักคนจะดื่มสุรา เพียงแต่มันเป็นเรื่องของ ‘จิตสำนึก’
สโมสรจ้างคุณเพื่อต้องการใช้ศักยภาพของคุณอย่างเต็มที่ ในขณะที่ ‘สุรา’ ยังไม่มีงานวิจัยทางงวิทยาศาสตร์กีฬาตัวไหนระบุว่า มันเพิ่มศักยภาพให้คุณได้ มีแต่ทำลายศักยภาพลง
เคยได้ยินคนพูดเหมือนกันว่า นักเตะบางคนขี้เหล้าแต่เล่นบอลโคตรเก่ง แต่เคยมีใครตั้งถามต่อหรือไม่ว่า หากไม่ติดเหล้า เขาจะเก่งกว่านี้มั้ย?
หรือมีการพูดกันว่า นักบอลคนนี้โคตรเจ๋ง มีความรับผิดชอบ ปาร์ตี้ทั้งคืนยังลุกขึ้นมาซ้อม มาแข่งขันไหว แต่เคยมีใครตั้งคำถามต่อหรือไม่ว่า ถ้าไม่ดื่ม ไม่ปาร์ตี้ ศักยภาพ-ความฟิตในสนามจะมีมากกว่านี้มั้ย?
พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างไร ‘ไม่ดื่ม’ ย่อมดีกว่า ‘ดื่ม’ ทุกประตู
ขึ้นชื่อว่า ‘กีฬา’ จุดประสงค์ของมัน เด็กๆ ยังรู้เลยว่า เพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง เราท่องกันมาตั้งแต่ตัวน้อยๆ
ในขณะที่ ‘สุรา’ หรือ ‘ยาเสพติด’ ทุกประเภท คือ สิ่งที่วิ่งสวนทางกับคำว่า ‘สุขภาพที่ดี’
ฉะนั้น เอาแค่หลักการมันก็ผิดแล้ว
หากรักในอาชีพนี้ต้องรู้จัดลด ละ เลิก เพราะยังไม่เห็นว่า มีข้อดีข้อไหนของ ‘สุรา’ ทำให้คุณเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น
ชีวิตนี้คุณมีเวลาดื่มอีกเยอะ หลังแขวนสตั๊ดคุณจะนั่งดื่มทุกวันยังไม่มีใครว่า เพราะมันไม่มีผลกระทบอะไรกับคนอื่น ไม่มีผลกระทบกับสโมสร มันมีแค่ผลกระทบกับตัวคุณ ร่างกายคุณ
แต่ในขณะที่ในวิชาชีพนี้มันมีเวลา ‘โคตรสั้น’ สู้รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีที่สุดไม่ดีกว่าหรือ?
ในขณะที่ฟุตบอลไทย สโมสรต่างๆ เองถ้าแข็งขันกับเรื่องนี้มากขึ้น เชื่อว่า มันจะทำให้เราขยับไปสู่ความเป็นมืออาชีพได้เช่นกัน
หากทุกสโมสร ตั้งกฎ กติกา เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีมาตรการขั้นเด็ดขาด (เข้าใจว่าปัจจุบันมีบางทีมเคร่งครัดกับเรื่องนี้มาก) มันจะเป็นการบีบจำนวนประชากรนักบอลเหล่านี้ให้เหลือน้อยลง และไม่กล้ากระทำผิด
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้ว อย่าให้เป็นพลุตะไลที่จุดขึ้นไปแล้วค่อยๆ เงียบลง.
___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Chonburi Football Club
แสดงความเห็น
