“สุทิน” จ่อหารือเพื่อไทย-พรรคร่วมฝ่ายค้าน สัปดาห์หน้า ถกยื่นศาลอาญาคดีอาญาทุจริต ถอดถอน “บิ๊กตู่” ปมออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อกำหนดที่ 29 ลั่นจะไม่ปล่อยให้ใช้อำนาจเหิมเกริม เหมือนประเทศไทยไร้กฎหมาย
นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. บังคับใช้คำสั่งการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อกำหนดที่ 29 ว่า กรณีนี้เป็นการชี้ชัดว่ารัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ ได้จงใจปฏิบัติหน้าที่โดยขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดความเสียหายให้เกิดกับสังคม ฉะนั้นเป็นการปฏิบัติราชการบริหารบ้านเมืองขัดต่อรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศและได้มีการละเมิดกฎหมายมาจนเป็นนิสัย ครั้งหลังสุดคือการปล่อยให้ประชาชนต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยต้องจ่ายเงินซื้อวัคซีนเอง ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่การบริหารที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แทนที่พลเอกประยุทธ์ จะสำนึกผิดและแก้ไขปัญหานี้ กลับไม่ดำเนินการ และสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ทำคือ รีบออกกฎหมายโดยใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดปากประชาชน ที่จะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเหล่านี้ไม่ให้สามารถกระทำได้ ซึ่งการออกกฏหมายปิดปาก ตามข้อ 29 ของพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ศาลแพ่งชี้แล้วว่าผิด
“ตนในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะรีบนำเรื่องดังกล่าวนี้เข้าหารือพรรคเพื่อไทย รวมถึงหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสัปดาห์หน้า ว่าจะต้องมีการดำเนินตามกฎหมายในการดำเนินคดีกับพลเอกประยุทธ์ ต่อศาลคดีอาญาทุจริต และอาจจะหารือกับฝ่ายกฎหมายว่า จะทำการยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งได้หรือไม่ ฉะนั้นก่อนที่ฝ่ายค้านจะดำเนินการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลคดีอาญาทุจริต รวมถึงการยื่นถอดถอน โดยจะให้โอกาสรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ ได้แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หากเป็นรัฐบาลที่มีสำนึกประชาธิปไตยสูง เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้จะต้องมีการลาออก อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพราะเป็นการสกัดกั้นไม่ให้พลเอกประยุทธ์ ใช้อำนาจที่เหิมเกริม โดยไม่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม นึกจะทำอะไรก็ทำตามใจตัวเอง ประหนึ่งว่าประเทศนี้ไม่มีขื่อมีแป ไม่มีกฎหมายให้ยึดถือ” นายสุทิน กล่าว
