สุดารัตน์ เสนอพิมพ์เขียว ออกจากวิกฤตโควิด จี้ รัฐปรับแผนฉีดวัคซีน ต้องสั่ง mRNA อย่างน้อย 100 ล้านโดส มาเป็นวัคซีนหลักคู่กับ AstraZeneca
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก จะต้องไม่ปล่อยให้คนไทยตายเป็นใบไม้ร่วง และต้องจมกับกองทุกข์ ทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจที่หายนะอีกต่อไป พรรคไทยสร้างไทย จึงได้เสนอพิมพ์เขียว เพื่อให้รัฐบาลเร่งปรับแผนวัคซีน โดยต้องสั่ง mRNA อย่างน้อย 100 ล้านโดส มาเป็นวัคซีนหลักคู่กับ AstraZeneca พร้อมฉีดให้ได้วันละ500,000 โดส เพื่อให้ประชาชน 50 ล้านคนได้ฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเปิดเมือง เปิดประเทศ เปิดการทำมาค้าขาย เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย และที่สำคัญคือทำให้เกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่” ได้จริง ได้เร็ว
ถ้าทำตามพิมพ์เขียวที่พรรค ไทยสร้างไทยได้เสนอไปแล้ว คนไทยอย่างน้อย 50 ล้านคน จะได้ฉีดวัคซีน 1 เข็ม ได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ และครบ 2 เข็ม ในเดือนมกราคม 65
แต่ถ้ารัฐบาลไม่ปรับแผนการสั่ง และฉีดวัคซีน กว่าจะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะต้องใช้เวลายาวนานไปถึงกรกฎาคมปีหน้า โดยได้นำอัตราการฉีดจริง ตั้งแต่ต้นมาถึงปัจจุบัน เราฉีดเฉลี่ยได้วันละ 244,400 โดส/วัน มาคำนวณ (ตามตาราง ซึ่งต้องขอบคุณ คุณเจษฎา ทักษิณ ผู้จัดทำตารางการคำนวณ)
ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยอมปรับแผนการฉีด “ประเทศไทยจมกับการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า และประชาชนคนไทยจะต้องทุกข์ทรมานไปอีกนาน”
พรรคไทยสร้างไทย จึงได้เสนอพิมพ์เขียว เพื่อเร่งพาพี่น้องชาวไทยออกจากมหาวิกฤตนี้ ทำให้คนไทยได้ใช้ชีวิตอยู่กับโควิดอย่างปลอดภัย อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ที่หลังจากฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว อัตราการติดเชื้อลดลง ผู้ป่วยหนักน้อยลง คนเสียชีวิตน้อยลง ทำให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตปกติสุข แบบ New Normal สามารถเปิดการค้ากลับทำมาหากินกันได้
