ที่สะพานสมัยมรุเชษฐ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า การชุมนุมวันนี้มีการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณอนุเสาวรียประชาธิปไตยเมื่อช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. และในเวลา 13.00 น. ผกก.สน.สำราญราษฏร์ พร้อมกับ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้ร่วมกันประกาศให้กลุ่มชุมนุมได้ทราบว่าการชุมนุมนั้นผิดกฎหมาย เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างเข้มงวด เป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถชุมนุมทางการเมืองได้ นอกจากนี้การชุมนุมอาจทำให้เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ อย่างไรก็ดี ผู้ชุมนุมก็ยังรวมตัวกันอยู่ ไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
จนกระทั่งเวลา 13.30 น. ผู้กำกับการนครบาลทั้ง 2 แห่ง ยังได้มีการประกาศย้ำว่าไม่สามารถชุมนุมได้ เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งหน้ามายังบริเวณสะพานผ่านฟ้า และพยายามฝ่าแนวต้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นจุดที่ตัดกันระหว่างสะพานผ่านฟ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแนวกั้น เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ชุมนุมผ่านมาในบริเวณถนนราชดำเนิน ทั้งวันกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้ว่าจะมีประกาศแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายๆครั้งว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะฝ่าแนวและพยายามที่จะตัดแนวลวดหนาม และฝ่าแนวเหล็กแผงกั้น เมื่อไม่มีการเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้มีการฉีดน้ำ โดยใช้รถพ่นน้ำแรงดันสูง และมีการใช้กระสุนยางตามขั้นตอนยุทธวิธีของตำรวจในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ
รองโฆษกตร. กล่าวอีกว่า เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถฝ่าเข้ามาในบริเวณถนนราชดำเนินได้ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้มุ่งหน้ามายังบริเวณแยกนางเลิ้งและเคลื่อนที่ไปเชิงสะพานสมัยมรุเชษฐ โดนบริเวณนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศแจ้งเตือนช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. เป็นต้นมา จนถึงเวลา 17.00 น. ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นที่จะต้องดำเนินการใช้น้ำฉีด รวมถึงดำเนินการที่จะระงับยับยั้งไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าแนวของตำรวจเข้ามาบริเวณสะพานสมัยมรุเชษฐ และบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ พยายามที่จะป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมนั้นฝ่าแนวเข้ามา