ผู้ว่า กทม.ตรวจความพร้อม โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 3 พร้อมรับผู้ป่วยเย็นนี้ -นำร่องแจกยาต้านไวรัส กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ยัน ล็อกดาวน์คลองเตยเหมือนสมุทรสาครไม่ได้ เตรียมใช้แผนตรวจเชิงรุกอีกกว่า 20,000คน-ฉีดวัคซีนวันละ 2500-3000คน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 3 ที่ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด เขตทุ่งครุ โดยระบุว่า โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ รองรับผู้ป่วยทั้งหมด 4 ยิม จำนวน 342 เตียง แบ่งเป็น ผู้ป่วยสีเขียว 2 ยิม จำนวน 180 เตียง และสีเหลือง 2 ยิม จำนวน 164 เตียง โดยผู้ป่วยสีเหลืองจะมีเครื่องให้ออกซิเจนอยู่ประจำเตียงด้วย และจะมีแพทย์ บุคลากร จากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เข้ามาดูแล โดยจะเริ่มรับผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยในวันนี้ จะเริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาต้านไวรัส ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวด้วย จะเริ่มแจกคนละ 50 เม็ด ให้รับประทานต่อเนื่อง 5 วัน ทั้งนี้แม้รู้ว่าป่วยติดเชื้อ ก็จะนำร่องให้กินยาเลย ไม่ต้องรอให้อาการหนักหรือไวรัสลงปอดเหมือนที่ผ่านมา โดยยาดังกล่าวกรุงเทพมหานครได้จัดสรรมาเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรมาให้ขณะนี้มีทั้งหมด 100,000 เม็ด และจะจัดสรรเพิ่มเติมอีก 500,000 เม็ดภายในเดือนพ.ค. ทั้งนี้จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่าหากให้ยาตั้งแต่ตรวจพบเชื้อจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาดีขึ้น กรุงเทพมหานครจึงได้นำวิธีนี้มาใช้เป็นที่แรก
ส่วนเหตุผลที่รับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองถือเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลัก และที่โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 3 มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะในการดูแลการให้ออกซิเจน และจะมีการขยายเตียงในพื้นที่ได้อีก
ส่วนกรณีคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในพื้นที่ชุมชนคลองเตย นั้น กรุงเทพมหานครได้ไปทำการตรวจเชิงรุกในสัปดาห์ที่แล้ว และพบผู้ติดเชื้อ 99 คน ได้ส่งไปรับการรักษาแล้ว และวันนี้ รวมถึงตั้งแต่วันที่ 4-19 พ.ค. มีแผนในการตรวจคัดกรองเชิงรุกอีกรวมกว่า 20,000 คน ทั้งนี้หากพบว่าเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อก็จะนำเข้ามารับการรักษาที่รพ.สนาม รพ.หลัก และhospitel และจะแจกยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาต้านไวรัสให้รับประทาน 5 วัน เชื่อว่าจะสามารถควบคุมโรคได้ รวมถึงจะไปฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่คลองเตย ตั้งเป้าวันละ 2500-3000 คน และจะฉีดให้ทุกคน ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ล็อกดาวน์พื้นที่คลองเตยนั้น ยืนยันว่า ไม่สามารถล็อกพื้นที่คลองเตยได้ ไม่เหมือนที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่เป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ในที่จำกัดอยู่แล้ว แต่ชุมชนคลองเตยมีคนกว่า 9 หมื่น-1 แสนคน จึงต้องใช้แผนการตรวจคัดกรองและการฉีดวัคซีน เริ่มฉีดวัคซีนที่โรงเรียนคลองเตย และโลตัสพระราม4 และการทำ รพ.สนามพื้นที่คลองเตย ต้องใช้ระยะเวลาในก่อสร้างนาน กว่าจะเปิดได้ จึงมองว่าจะนำมาที่รพ.สนามที่ กทม.จัดเตรียมไว้มีความพร้อมมากกว่าและมีเพียงพอในการรองรับผู้ป่วย เช่นการสร้างห้องน้ำ
