รมว.ยุติธรรม สั่ง ยธ.อุดรฯ เร่งเยียวยาเหยื่อหนุ่มคลั่งปาดคอย่าตัวเอง ไล่แทงมั่ว-บุกยิงผช.พยาบาลสาว ชี้ต้องหามาตรการป้องกันหลังเกิดเหตุบ่อยขึ้น ย้ำสิทธิเหยื่อได้รับค่าตอบแทนตามพ.ร.บ.ฯ ยันพร้อมช่วยผู้เสียหายทุกคน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีหนุ่มคลั่งปาดคอ ย่าตัวเองจนเสียชีวิตที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี โดยการนำของ น.ส.จักษณา ปัญญาสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานีพร้อมทีมงาน ดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียหายตามแนวทางยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน โดยเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ทีมงานได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีเพื่อประสานขอข้อมูลผู้เสียหายและสอบถามข้อเท็จจริงของคดี ได้ข้อมูลเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุคือ นายนายกิตติภัฏ เลิศอำนวยลาภ หรือฟีฟ่า อายุ 22 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดปาดคอย่าตนเองเสียชีวิตและก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย รวมผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ทั้งหมด 3 ราย โดย ประกอบด้วย 1.ผู้เสียชีวิต คือ นางอนงค์ เลิศอำนวยลาภ 2.ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือพนักงานร้านนวดซึ่งถูกแทงด้วยอาวุธมีดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเข้ารับการรักษาที่ รพ.อุดรธานี และผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลวัฒนาถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการในเชิงบูรณาการร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานีลงพื้นที่ไปยังวัดมัชฌิมาวาส อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของ นางอนงค์ และไปพบสามีผู้เสียชีวิตและครอบครัวเพื่อแสดงความเสียใจให้กำลังใจกับครอบครัวพร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือตามพรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา และได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือตามพรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งในส่วนของพนักงานร้านนวดอยู่ในสถานะงดเยี่ยมเพราะได้รับการผ่าตัด และจะประสานญาติผู้เสียหายเพื่อแจ้งสิทธิ์อีกครั้งหนึ่งเนื่องจากครอบครัวอยู่ที่จังหวัดนครพนม โดยค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตายได้สูงสุด 100,000 บาท ค่าจัดงานศพ 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงไม่เกิน 40,000 บาท และค่าเสียหายอื่นจ่ายตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจริงและค่าฟื้นฟูจิตใจรวมสูงสุด 110,000 บาท
“คดีนี้ถือเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ เพราะผู้ก่อเหตุกระทำการกับย่าแท้ๆของตัวเองซึ่งเป็นคนในครอบครัว และยังไปแทงคนที่ไม่รู้จักกันด้วย รวมทั้งยังบุกไปยิงผู้ช่วยพยาบาลถึงในโรงพยาบาล ซึ่งทำให้ประชาชนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะมีคดีในลักษณะนี้บ่อยครั้งขึ้น คงจะต้องมีการหามาตรการป้องกันโดยด่วน ขณะนี้เรามีศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน หรือ JSOC คอยติดตามดูผู้ก่อคดีในลักษณะนี้อยู่ ซึ่งอาจจะต้องทำงานให้เข้มข้นขึ้น เพื่อความปลอดภัยของสังคม ส่วนเรื่องคดีต้องรอการสอบสวนของตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผมขอย้ำอีกครั้งว่าหากผู้เสียหายจากคดีอาญาไม่ว่าจะคดีเล็กหรือใหญ่ก็ตาม สามารถได้รับสิทธิตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา หรือหากใครมีเรื่องร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงยุติธรรมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกคน” นายสมศักดิ์ กล่าว