ดร. พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องระมัดระวังไม่ให้เชื้อกลับมาระบาดในวงกว้างอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆมาดูแลพี่น้องประชาชนให้ทั่วถึงทุกคน ทั้ง เกษตรกร ผู้ประกันตนและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งการเยียวยาจะถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ขอให้เข้าใจว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ 100 ปี จะเกิดสักครั้งหนึ่ง รัฐบาลจึงต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการเพราะต้องการให้ทั่วถึงและไม่ซ้ำซ้อน ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนใจเย็นๆ
“การต่อสู้ครั้งนี้ ทุกคนคือ นักรบโควิด..ที่ศึกครั้งนี้ยืดเยื้อยังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานอย่าโหมกระหน่ำจนหมดแรง หรือกำลังตก สู้ไม่ไหวแผ่วพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ ฉะนั้นต้องแน่วแน่ มั่นคงเฝ้าระวังไม่ให้เพลี่ยงพล้ำจนข้าศึกหึกเหิม โดยทุกคนต้องช่วยกันปฏิบัติตนตามมาตรการจนคุ้นชินเป็นวิถีชีวิต เช่นการใช้หน้ากากอนามัย อยู่ห่างกันเข้าไว้ ล้างมือบ่อยๆ และออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อรอวัคซีนป้องกันที่มีประสิทธิภาพซึ่งคาดไว้อาจยาวนานถึงปี 2564 แล้วเราจะชนะอย่างแท้จริงในที่สุด และ ระหว่างรอวัคซีนถ้าประชาชนคุ้นชินกับมาตรการต่างๆ จนเป็นที่มั่นใจได้ การผ่อนปรนมาตรการด้านเศรษฐกิจ ก็จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าสู่ระบบการทำงานได้อย่างปกติ มีรายได้กลับเข้ามาอย่างเดิม”
สำหรับพื้นที่จ.สุโขทัยนี้ ตนขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกส่วนราชการบุคลากรทางการแพทย์ ชาวสาธารณสุข และพี่น้อง อสม. ทุกภาคส่วนที่ร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และในทุกค่ำคืนที่ ก็มีกลุ่มบุคคลากรที่เสียสละอดทน ทำหน้าที่อยู่ประจำที่ด่านเคอร์ฟิว ตั้งแต่ 22.00-04.00 น.ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสามัครทุกภาคส่วนมาอยู่เวรยามเพื่อสกัดไม่ให้เชื้อข้ามมาจังหวัดเรา และดูแลควมปลอดภัยพี่น้องประชาชนไปในตัว ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับทุกคน โดยนำเครื่องดื่มชูกำลัง พร้อมแอกอฮอล์สเปร์ย หน้ากากอนามัย โดยได้นำไปเยี่ยมด่านเคอร์ฟิวทุกคืน ซึ่งมีจำนวน 77 ด่านเคอร์ฟิว ในพื้นที่ 27 ตำบล และ 29 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ร่วมมือร่วมใจให้กับพี่น้องประชาชนปลอดภัย พร้อมนำอาหาร เครื่องดื่ม หน้ากากอนามัยแบบผ้าไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข อสม.พ่อค้าแม่ขาย ประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง เด็ก รวมทั้งพระสงฆ์ บุคลากรวัด เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย ไม่รับและแพร่เชื้อต่อกัน ในฐานะที่ทุกคน เป็นนักรบโควิด ช่วยกันสกัดโรคระบาดในครั้งนี้
