นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมกระทรวงด้วยระบบ คอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยอธิบดีกรมต่างๆ เข้าร่วมประชุมในระบบอย่างพร้อมเพรียง
โดยวาระแรกของการประชุม นายสมศักดิ์ ได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง สร้างภูมิคุ้มกันในเรือนจำโดยให้มีการให้ความรู้แนวทางต่างๆโดยให้ฝ่ายวิชาการ หมอ ให้ความรู้ต่างๆ รวมถึงการสร้างความบันเทิงในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อคลายเครียดให้กับผู้ต้องขัง และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆในสถานการณ์โควิด -19 ให้ผู้ต้องขังรับรู้ในข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดกลัว จนไปก่อเหตุรุนแรงแบบเรือนจำบุรีรัมย์
“อีกปัจจัยที่สำคัญ คือความแออัดที่ทำให้เป็นเหตุความเครียด และอาจจะบานปลายจนก่อวินาศกรรมอีก เวลานี้สำนักงบประมาณได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีให้กรมราชทัณฑ์ ปรับงบประมาณของตัวเองในการทำเตียง 2 ชั้นเพิ่มพื้นที่ ดังนั้นโครงการใดไม่สำคัญกรมราชทัณฑ์ควรพักไว้แล้วนำมาทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ เพราะพื้นที่จะนอนของผู้ต้องขังเวลานี้ใหญ่กว่าโรงศพนิดเดียว การจัดทำให้เรือนจำต่างๆรับผิดชอบในการซื้อไม้ ซื้ออุปกรณ์ และให้นักโทษลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องไปจ้างใคร แต่ห้ามไปนำงบประมาณในส่วน เรื่องเวชภัณฑ์ หรือที่กันไว้ทำ ห้องกักโรค มาใช้ เพราะทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ “นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึง น.พ.บุญมี วิบูลย์จักร ผู้บัญชาการเรือนจำนครนายกติดโควิด-19 ว่าเวลานี้ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร และทางจังหวัดได้แจ้งกักตัวคนใกล้ชิดแล้ว และติดตามคนใกล้ชิดในกรอบระยะเวลา 14 วัน เบื้องต้นได้ทำประกันให้แล้วจะได้รับเงินชดเชย 200,000 บาท
นายสมศักดิ์ ระบุ ต้องเช็คให้ดี ว่า ผบ.เรือนจำใกล้ชิดกับใคร เบื้องต้นรับทราบแล้วว่า นพ.บุญมี ไม่ได้เข้าไปในแดนคุมขังเพียงแต่เข้าประชุมในวันที่ 26 มี.ค. ในเรื่องการลดโทษ แต่อยู่ภายนอก “เราจะประมาทไม่ได้ต้องติดตามเจ้าหน้าที่ที่ร่วมประชุมในวันนั้นด้วยว่าได้รับเชื้อหรือไม่ ส่วน น.พ.บุญมี ไม่ได้เข้าแดนคุมขัง และใกล้ชิดผู้ต้องขังตนสบายใจขึ้น” รมว.ยุติธรรมกล่าว
แสดงความเห็น
