“สมศักดิ์” บอก เรื่องแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ยังเร็วไป ไม่สามารถบอกได้ หลังกระแสข่าว ทาบ “วราวุธ”

“สมศักดิ์” บอก เรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย ยังเร็วไป ไม่สามารถบอกได้ หลังกระแสข่าว ทาบ “วราวุธ” เป็น1ใน3 ระบุเป็นคนนอกหรือคนในพรรค ไม่มีปัญหา ลั่นถึงเวลาเลือดน่าจะหยุดไหลแล้ว ชี้อย่าประมาทสังคม-การเมือง มองสถิติอยู่ที่ไหน ได้เป็นรัฐบาล แค่เรื่องบังเอิญ มองภูมิใจไทย น่ากลัวเป็นเขตๆ บางเขตก็ไม่กลัว มั่นใจ พท.ไม่ต่ำร้อยแน่นอน

ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวลือพรรคเพื่อไทย ทาบทามนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มานั่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องของนายกรัฐมนตรียังเร็วเกินไป ซึ่งนายวราวุธก็เป็นบุคคลหนึ่งที่สังคมให้การจับจ้อง และมีคะแนนโหวต ซึ่งก็เป็นคนรุ่นใหม่มีบุคลิกท่าทางดี แต่การจะเป็นแคนดิเดตหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ เพราะเร็วเกินไป และยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะเลือกแคนดิเดต บางทีท้ายสุด 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้ง แต่ตามปฏิทินของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ก็ยังอีก 3เดือนครึ่ง ถึงจะยุบสภา หลังจากนั้นต่อไปอีกเป็นเดือนถึงจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นถ้าพูดวันนี้ยังเร็วเกินไป แต่ถ้าเป็นการโยนหินถามทางของสื่อมวลชน ก็ไม่มีปัญหา ก็เป็นสิ่งที่ทำได้

เมื่อถามว่า ในฐานะแกนนำพรรครู้สึกอย่างไร เพราะจะถูกมองว่าคนในพรรคไม่มีศักยภาพหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นข่าว ยังไม่ได้พิจารณาอะไรกัน จะดีหรือไม่ดีก็ได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครก็ยังต้องหาตัวที่ดีที่สุด อีก 3-4 เดือนข้างหน้า

เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยกับนายวราวุธหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ก็ดี ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นคนพรรคเพื่อไทย รับได้หรือไม่ถ้าเอาคนนอกพรรคมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนตอบแทนพรรคการเมืองไม่ได้ เพราะยังไม่ประชุม แต่ถ้าถามตนก็ไม่ควรตอบ เพราะไม่รู้ว่านายวราวุธจะใช่หรือไม่ใช่ ไม่มีใครรู้ และตนคิดว่าจะได้คนในพรรคหรือนอกพรรค ก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นคนที่สังคมรับได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เน้นว่าต้องเป็นในพรรคหรือนอกพรรค ก็เอาคนที่เข้าใจบริบทของสังคม บางคนก็เข้าใจสังคมเมือง บางคนไม่เข้าใจสังคมชนบท หรือสังคมระหว่างประเทศ ถ้ามีอะไรที่ครบเครื่องก็คงดีที่สุด แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ค่อยลดสเปคลงมาค่อยว่ากันไป

เมื่อถามว่า การมีข่าวแบบนี้จะทำให้เพื่อไทยเลือดไหลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถึงเวลาเลือดน่าจะหยุดแล้ว

เมื่อถามว่า พื้นที่สุโขทัยจะยังคงรักษาฐานเสียงทั้งหมดไว้ได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เข้าไปเจอพรรคการเมืองที่เขาทุ่มมากกว่าเรา แล้วเราไม่มีกำลังมากเท่าไหร่ก็กลัวเหมือนกัน เรื่องของความกลัวแค่เห็นความมืดเรายังกลัวเลย แต่เราก็ต้องอยู่กับความเป็นจริง บางครั้งบอกว่าจะส่งผู้แทน แต่ก็ใช่ว่าจะได้ทั้งหมด การเลือกตั้งไม่มีใครจะแบเบอร์ทั้งหมด ที่คิดว่าแน่นอนก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้น หรือบางครั้งคนใหม่ที่กระโดดเข้ามา ลงสนามการเมืองก็อาจจะได้รับเลือก คนเก่าสอบตกเยอะก็มี ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน ว่าเขาอยากจะเปลี่ยนหรือไม่ เราต้องสังวรและระมัดระวัง ตั้งใจทำงานทุ่มเทเพื่อสังคมไม่ใช่ทำครึ่งไม่ทำครึ่ง ก็จะทำให้มีโอกาสสอบตก

ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย หึกเหิม ตั้งเป้าไว้ว่าจะคว้าเก้าอี้สส. ถึง 200 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสุริยะมั่นใจเพราะอาจจะมีสรรพกำลัง สามารถช่วยลูกพรรคได้ ส่วนตนก็มีหน้าที่ให้คำปรึกษาเพราะเป็นผู้แทนฯ มานาน แต่ก็ไม่ใช่เก่ง เพียงแต่นำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยน การเลือกตั้งสมัยใหม่ ต้องมีของครบเครื่อง

เมื่อถามว่าเคยมีคำพูดว่า นายสุริยะกับนายสมศักดิ์เมื่อเลือกอยู่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองนั้นก็จะได้เป็นรัฐบาลเสมอ วันนี้ยังคงใช้คำพูดนี้ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าประมาทสังคม อย่าประมาทการเมือง แต่อดีตเป็นประวัติที่เกิดมาแบบนั้น ส่วนจะรักษาประวัติศาสตร์ทางการเมืองตรงนี้ไว้ได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ เพราะอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยดูน่ากลัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ กลัวเป็นเขตๆ ไม่กลัวเป็นเขตๆ บางเขตก็น่ากลัว บางเขตก็ไม่น่ากลัว

เมื่อถามถึงพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดสุโขทัยในพื้นที่ภาคเหนือกับพรรคกล้าธรรม เป็นอย่างไร นายสมศักดิ์ ระบุว่า หัวหน้าพรรคกล้าธรรม มองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็อาจจะออกแรงมาก ใครสู้กับพรรคกล้าธรรม ก็ต้องระมัดระวังหน่อย เพราะเป้าหมายเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหัวหน้าพรรคทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะมีความประสงค์อันแรงกล้า ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าหนักสำหรับเขตเลือกตั้งที่พรรคกล้าธรรมตั้งใจ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ผลลัพธ์ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะได้ต่ำ 100 นายสมศักดิ์ ร้องหึ ก่อนกล่าวว่า เท่าไหร่นะ เป็นไปไม่ได้หรอก เอาความคิดนี้ทิ้งไป เป็นไปไม่ได้หรอก และนายสุริยะ ได้ประกาศเอาไว้นั้นเป็นสิ่งที่ตัวตั้ง ให้ใช้ตัวเลขนั้นมาคุยดีกว่า ต่ำร้อย เลิกคุยไปเลย เลิกคิดได้แล้ว

แสดงความเห็น