

“ภราดร” ยัน งบกลาง 1.9 หมื่นล้านบาทใช้ทำ “คนละครึ่ง พลัส” เหตุรัฐบาลพท. ตั้งไว้กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่หวั่นถูกร้อง โยกงบ คาดกระตุ้นจีดีพี 0.4 %
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ กล่าวถึงกรณีถูกวิจารณ์ความเหมาะสมในการใช้งบกลาง 1.9 หมื่นล้านบาท มาใช้ใน โครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นงบที่ควรจะใช้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนว่า งบกลางเป็นส่วนที่รัฐบาลตั้งไว้ในแต่ละปี ในส่วนรัฐบาลก่อนได้แยกส่วนเอาไว้ 25,000 ล้านบาท เพื่อเอามากระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ซึ่งโครงการคนละครึ่งต้องใช้เงินทั้งสิ้น 44,000 ล้านบาท มีอยู่ในส่วนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท ทำให้ยังขาดอยู่อีก 19,000 ล้านบาท จึงต้องไปหยิบมาจากงบกลางที่ตั้งไว้ทั้งหมด 99,000 ล้านบาท ยอมรับว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่ผู้ตั้งงบประมาณ เป็นผู้ที่ใช้งบประมาณจากที่รัฐบาลเดิมตั้งไว้ ดังนั้น การทำนโยบายมีความจำเป็นที่จะต้องหาช่องทางมาเติมเต็มเพื่อให้นโยบายสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ รัฐบาลยังประกาศนโยบายว่า จะต่อสู้กับ 4 ภัย ซึ่งเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในนั้น ถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน จึงใช้งบกลางมาเติมในส่วนนี้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบหรือไม่ หากในอนาคตเกิดความจำเป็นเร่งด่วน นายภราดร กล่าวว่า รัฐบาลได้ดูแล้วว่างบประมาณในการเยียวยาประชาชนนั้นในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 20,000 ถึง 30,000 ล้านบาท จึงยังมีพื้นที่พอที่จะนำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า หากมีการร้องเรียนในการใช้งบกลางส่วนนี้กังวลหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า งบกลางเขียนไว้ชัดเจนว่าสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ สามารถเรียกได้ว่ามันฉุกเฉิน จำเป็น และเร่งด่วน
เมื่อถามว่า วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาทที่จะใช้ได้ประมาณการณ์ไว้หรือไม่ว่า จะสร้างการหมุนเวียนไว้เท่าไร นายภราดร กล่าวว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ประเมินว่าในช่วงไตรมาสสุดท้าย สามารถขยับตัวเลขจีดีพีได้ 0.3-0.4 เปอร์เซ็นต์
แสดงความเห็น






