กัญชาเสรี: สมุนไพรหรือสมุนภัย?

โดย “ดาบสองคม”

ตั้งแต่กัญชาถูกปลดล็อกจากบัญชียาเสพติด ประเทศไทยก็เหมือนเปิดประตูต้อนรับ “พืชมหัศจรรย์” ที่ใคร ๆ ก็อวยกันว่าเป็นทางรอดของเศรษฐกิจ และทางเลือกใหม่ของการแพทย์

ฟังดูดีใช่ไหม?

แต่ถ้ากัญชาดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนั้น… ทำไมถึงเคยถูกควบคุมด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวดตั้งแต่ต้น?

อย่าลืมว่า…กัญชามีฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่า สาร THC ในกัญชา มีผลต่อสมอง ทำให้ความจำแย่ลง สมาธิสั้นลง และในบางรายอาจถึงขั้น หลอน หวาดระแวง หรือเป็นโรคจิตเภท

โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนที่สมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และนี่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่คือเคสจริงที่หมอเจอกันรายวันในโรงพยาบาล

ใช่ครับ…เราต้องยอมรับว่า กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์จริง แต่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ไม่ใช่ใช้เอง สูบเอง ขายกันเองตามสะดวก

ในโลกความเป็นจริง กัญชาควรถูกใช้ “อย่างมีวัตถุประสงค์” ไม่ใช่ใช้ “อย่างมีอารมณ์”

เพราะอะไร? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ ร้านกัญชาผุดขึ้นทั่วเมือง เหมือนร้านชานมไข่มุก ทั้งขนม น้ำดื่ม เยลลี่ เบเกอรี่ อัดแน่นด้วยสาร THC จนแยกไม่ออกว่าอันไหนขนม อันไหนของเมา บางทีผู้บริโภคยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังกินอะไรเข้าไป พอเกิดผลข้างเคียง ใครรับผิดชอบ?

ไม่แปลกที่ กระทรวงสาธารณสุขต้องออกประกาศควบคุมเข้มขึ้น ก็ในเมื่อเปิดเสรีแล้วเกิดปัญหาตามมาไม่หยุด เด็กใช้ ผู้ใหญ่เมา เพื่อนบ้านด่า กลิ่นเหม็น คนป่วยจิตเพิ่ม แบบนี้เรียกว่า “เสรีภาพ” หรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น การถกเถียงเรื่องกัญชาตอนนี้ เริ่มเบนเข็มไปเป็น “เกมการเมือง” มากกว่า “เกมปกป้องลูกหลาน”

ส.ส.บางพรรคจุดกระแสให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า ใครควบคุมคือ “ปิดโอกาส” ทั้งที่จริง ๆ “ควบคุม = ปิดช่องโหว่ ก่อนจะเกิดปัญหาในสังคม”

คำถามตรง ๆ ถึงประชาชน ถ้าคุณเห็นลูกหลานสูบกัญชาแล้วคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าเพื่อนบ้านมีอาการหลอนจากขนมกัญชาในตลาด ถ้ามีคนมาป้วนเปี้ยนสูบหน้าบ้านคุณ

คุณจะยังอยากให้กัญชา “เปิดเสรี” อย่างที่เป็นอยู่ไหม?

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเลือกว่า จะควบคุมให้เกิดประโยชน์ หรือปล่อยให้มันควบคุมสังคมแทนเรา!

แสดงความเห็น