“เท้ง” ดีใจ คะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท ชี้ ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง “รองปธ.สภาฯ” ขอคุย “ภท.”ก่อน

“เท้ง” ดีใจ คะแนนนิยมเพิ่ม แต่ไม่ประมาท มอง คะแนนนิยม “แพทองธาร”ตก กระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล เชื่อ มีชื่อ “บิ๊กตู่” เพราะ ปชช. ต้องการคนที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร ชี้ ฝ่ายค้านไม่ควรนั่ง “รองปธ.สภาฯ”แต่ขอคุย “ภท.”ก่อนจะเสนอหรือไม่ เหตุทางนิตินัยยังเป็นเสียงของรัฐบาล

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลที่พรรคประชาชนมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นนำนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ว่า รู้สึกดีใจแล้วขอบคุณประชาชนที่มอบความไว้วางใจ ขณะเดียวกันไม่ได้ประมาท และยังห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และกล่าวอ้างอิงว่าที่คะแนนนิยม ของนายกรัฐมนตรีตกลง หรือการขาดความเชื่อมั่นต่อนายกฯ ทำให้ส่งผลถึงความเชื่อมั่น ทำให้พรรคประชาชนหรือแคนดิเดตนายกฯคนอื่นจากพรรคการเมืองที่มีอยู่เพิ่มขึ้น จึงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งสาเหตุที่เกิดมาจากการขาดความเชื่อมั่นรัฐบาลในปัจจุบัน

“จากโพลที่เพิ่มขึ้นของผมหรือพรรคประชาชน แม้เราจะรู้สึกดีใจและขอบคุณ ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจพวกเรามากขึ้น พวกเรายังไม่ประมาท ยังคงเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่” นายณัฐพงษ์กล่าว

ส่วนผลโพลจะส่งผลต่อสนามเลือกตั้งหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่ความคงเส้นคงวาของการสื่อสารและการปฏิบัติตัว การยืนอยู่บนหลักการหรือนำเสนอสิ่งต่าง ๆ และทางออกให้กับสังคมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะนำมาส่งชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งถัดไป แต่นับจากวันนี้จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ว่าผลโพลเป็นอย่างไรก็ตามหากละทิ้งหลักการ หากเลือกที่จะสื่อสารหรือชี้นำสังคมไปในทางใดทางหนึ่ง เอาผลประโยชน์ระยะสั้นของตัวเองเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชนมองออก ซึ่งผลโพลในวันนี้ไม่ได้หมายถึงการเลือกตั้งในอนาคตแต่ทางกลับกันในการวางตัว หรือการปฏิบัติตัว ที่ยืนอยู่บนหลักการยึดถือประโยชน์ของประชาชน และสังคมเป็นตัวตั้งจะนำมาสู่ชัยชนะ

เมื่อถามว่าชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาอยู่ในโพลมีคะแนนสูงกว่า น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี มีนัยยะหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การสำรวจโพลที่ผ่านมาไม่เคยมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ดีๆ มีความนิยม 12 % เป็นเพราะว่าพล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งมาอยู่ในรายชื่อครั้งนี้ แต่อีกมุมหนึ่งมองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่ คะแนนนิยมของ นายกฯคนปัจจุบัน ที่ตกลง สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชนนำมาสู่ความต้องการที่จะเลือกนายกฯ ที่มีความเข้มแข็งและมาจากฝ่ายทหาร เรื่องนี้จะต้องสื่อสารกับประชาชนทุกกลุ่มสิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือ นายกฯที่เป็นผู้ทำรัฐประหารซะเอง รวมถึงการใช้การเมืองนอกระบบ โดยในช่วงการเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อตอนนี้ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่บนหลักการ ปฏิเสธการปฏิวัติรัฐประหารให้หนักแน่นที่สุด ไม่ควรมีการเปิดช่องใดที่นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ขบวนการนอกรัฐธรรมนูญ

“ไม่ต้องการเห็นนายกฯที่มาจากนอกระบบ เพราะนอกจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการทำรัฐประหารแล้ว สิ่งที่เลวร้ายเช่นเดียวกัน คือการที่ได้มาโดยนายกรัฐมนตรี นอกระบบตามมาตรา 5 และเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่จะเดินไปสู่จุดนั้น ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาชนกำลังนำเสนออยู่ คือการ ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจอย่างมีวุฒิภาวะ ให้มีความละเอียดรอบคอบมากที่สุดเพราะทุกอย่างยึดโยงกัน การอภิปรายตามมาตรา 151 ก็เป็นสิ่งที่พร้อมเดินหน้าเต็มที่ แต่ขอประเมินดูสถานการณ์ที่ถูกต้องและเป็นทางออกให้กับสังคมไทยก่อน ซึ่งการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์นี้จะได้คำตอบ”นายณัฐพงษ์ กล่าว

ส่วนเรื่องเสนอชื่อตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่สอง ที่ว่างอยู่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน เป็นพรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านตามกฎหมายไม่สามารถเสนอตำแหน่งรองประธานสภาฯได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเสนอตำแหน่งรองประธานหรือไม่ขอไปพูดคุยกันก่อน เพราะมีข้อมูลบางส่วน ถ้าหากมีการเสนอชื่อและพรรคภูมิใจไทยได้ตำแหน่ง ในทางนิตินัยหมายถึงภูมิใจไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล แม้ทางพฤตินัยภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน อาจส่งผลต่อการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องนับเสียงของฝ่ายค้าน เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันอย่างรอบคอบว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอหรือไม่

แสดงความเห็น