ศึกนอก–ศึกใน รัฐบาลจะเอาตัวรอดอย่างไร?

โดย “ดาบสองคม”

คิดแล้วก็น่าเห็นใจรัฐบาลเหมือนกัน ที่วันนี้ต้องเจอกับ ศึกนอกประเทศ ซึ่งกำลังคุกรุ่นอยู่กับกัมพูชา และยังมี ศึกในประเทศ ที่ร้อนแรงยิ่งกว่าโดนแดดเผา

แต่ต้องยอมรับว่า “ศึกในบ้าน” นี่แหละ ที่ไฟกำลังลามมาถึงครัว แล้ว

ด้านนอก ฮุน เซน ที่ปากพาจน คว่ำข้อตกลงหลายอย่างกับไทย ทั้ง น้ำมัน ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต จนกลายเป็น เกมผลาญทรัพยากรของตัวเอง ชนิดที่ถ้าเป็นหมากรุกก็คงเรียกว่า รุกฆาตตัวเอง ไปเรียบร้อย

สถานการณ์อย่างนี้ ประเทศไทยควรจะได้เปรียบ แต่ปัญหาในประเทศกลับทำให้เราเหมือนไม่ได้อะไรเลย

เพราะตอนนี้รัฐบาลมี ศึกสามด้าน ที่จะต้องตีฝ่าไปให้ได้

ศึกถนน วันที่ 28 มิ.ย. ม็อบไล่นายกฯ เริ่มตั้งลำเตรียมกดดัน แม้เสียงยังไม่ดัง แต่ถ้ารัฐบาลพลาดแค่จังหวะเดียว ก็จุดติดได้ทันที

ศึกศาล วันที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดเคาะรับ–ไม่รับ คลิปเสียงนายกฯ กับอังเคิล ฮุน ถ้ารับคำร้อง นายกฯ อาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ กลายเป็น “ช่องว่างทางอำนาจ” ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันจะเกิดแน่ ถ้ากติกาทำงานตามเส้นทางของมัน

ศึกสภา วันที่ 3 ก.ค. พรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่น ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ แม้จะมีแค่ 69 เสียง ไม่ถึงเกณฑ์เสียงตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ามีพรรคอื่น “สมคบคิดทางการเมือง” เพิ่มมาอีกนิดเดียว ศึกอภิปรายก็เกิดแน่ แม้จะล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็อาจ สาหัสจนลุกไม่ขึ้น

เป็นรัฐบาลวันนี้ ไม่ใช่แค่บริหารประเทศ แต่ต้องบริหารวิกฤต ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้องมี “มือบริหาร” ที่เก่งกาจ แต่ต้องมี กุนซือระดับขงเบ้ง ที่ อ่านเกมขาด วางหมากลึก และกล้าเผชิญหน้า ทั้ง ศัตรูในสนาม และมิตรในคราบงูเห่า

คำถามคือ รัฐบาลจะเอาตัวรอดอย่างไร โดยไม่ให้ “ประเทศชาติ” ตกเป็นตัวประกันในเกมการเมือง?

ถึงเวลาที่ต้อง “หยุดคิดถึงพวกพ้อง แล้วหันมาคิดถึงประเทศชาติ” อย่าให้ความสะใจของการล้างแค้น หรือ ความหิวกระหายอำนาจของบางฝ่าย

กลายเป็นตัวจุดไฟ เผาบ้านทั้งหลัง…ซะเอง!

แสดงความเห็น