Home News การเมือง “กมธ.ดีอีเอส”...

“กมธ.ดีอีเอส” หารือป้องกันรุนแรงทางสื่อโซเชียล “เศรษฐพงค์” เผย เฟสบุคไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ในไทย ฝาก “เฟสบุค” ให้ความสำคัญ “ทำตามกฎหมาย-รักษาข้อมูลส่วนบุคคล”


การประชุมคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส เพื่อพิจารณาถึงแนวทางและมาตรการป้องกันการใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสมในสถานการณ์เหตุร้ายที่รุนแรง โดยมีตัวแทนของทางเฟสบุค เช่น นายไมเคิล บัค หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Mr. Michael Bäk, Head of Public Policy, Thailand) น.ส.แซนดี้ คุณวัฒนาการ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Ms. Sandy Kunvatanagarn, Public Policy Manager, Thailand) และ นายร็อบ อะบรามส์ ผู้จัดการฝ่ายความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย (Mr. Rob Abrams, Trust & Safety Manager) เป็นต้น เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ.ดีอีเอส ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ทางเฟสบุคได้เข้าพบกมธ.ดีอีเอส ตามนัดหลังจากที่ต้องเลื่อนการหารือมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทางกรรมาธิการฯ ได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางเฟสบุค ถึงการวางแผนในอนาคตว่าจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อที่จะป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งประเด็นทางกฎหมาย และความร่วมมือกันระหว่างทางเฟสบุคกับทางกรรมาธิการฯ โดยทางกมธ.ดีอีเอส ไม่ว่าจะเป็น นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษากมธ. นายสยาม หัตถสงเคราะห์ รองประธานกมธ.คนที่1 และน.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ โฆษกกรรมาธิการฯ ได้สอบถามทางเฟสบุคถึงประเด็นที่เรามีความห่วงใย เช่น ในเรื่องเนื้อหาที่มีความรุนแรงทางเฟสบุคได้มีการติดตามดูสถิติและนำมาวิเคราะห์บ้างหรือไม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหตุการณ์มีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้จัดการได้ทันเวลา ซึ่งทางเฟสบุคบอกว่าตรงนี้ไม่ได้มีการเก็บวิเคราะห์อะไรว่าเฟสบุคได้ทำความรุนแรงให้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เฟสบุคก็พยายามที่จะใช้ข้อดีที่มีอยู่ในการร่วมมือกับทางรัฐบาลไทย ในการเตือน แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ เช่น เรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 อย่างไรก็ตามทาง กมธ.ดีอีเอส ก็ได้ฝากไปยังให้เฟสบุคให้ได้ทำประโยชน์กับคนใช้มากขึ้น

ด้านพ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ตนเองได้สอบถามถึงเรื่องการกำกับดูแล เช่น ทางเฟสบุคได้เก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งทางเฟสบุคตอบว่าเขาเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ไว้ที่ต่างประเทศ ตนจึงได้ตอบกลับไป โดยขอให้ทางเฟสบุคได้ดูแลในเรื่อง Data privacy protection หรือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายด้วย ซึ่งทางเฟสบุค บอกว่าเขากำลังดูในเรื่องดังกล่าวอยู่ พยายามทำให้ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการขอใบนุญาตจาก กสทช. ในประเทศไทย เพื่อที่จะดำเนินการเรื่องการเผยแพร่ภาพต่างๆ หรือการถ่ายทอดสดเหมือนโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทางเฟสบุคบอกว่าเขาไม่ได้มีแนวคิดหรือนโยบายในเรื่องดังกล่าว เพราะมองว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน และเท่าที่ทราบการดำเนินการในลักษณะของเฟสบุค ไม่น่าจะอยู่ภายใต้กสทช. ซึ่งตนเองเข้าใจในสิ่งที่เฟสบุค ตอบกับกมธ.ดีอีเอส เพียงแต่ตนต้องการถามย้ำ เพื่อให้ทางเฟสบุคได้ตอบ เพื่อที่จะได้หาวิธีร่วมมือกันเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

“วันนี้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่ทางเฟสบุคให้ความร่วมมือเข้ามาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ แสดงให้เห็นว่าเฟสบุคพยายามให้ความร่วมมือ แต่ก็มีบางประเด็นที่ทางตัวแทนเฟสบุคที่มาครั้งนี้ยังตอบได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น อนาคตเราก็คงจะได้มีการประสานความร่วมกันอยู่เรื่อยๆ และคงจะได้มีการเชิญมาปรึกษาหารือกันอีกในอนาคต” รองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าว

Exit mobile version