“ดีลลับจบคดีฮั้ว ส.ว.” โดย “ดาบสองคม”

ในห้วงเวลาที่การเมืองไทยวนเวียนอยู่กับ “คนหน้าเดิม กลยุทธ์เดิม และระบบเดิม” การเปิดโปงกรณี “การฮั้ว ส.ว.” กลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ในศึกการเมืองใต้ดิน ที่กำลังร้อนระอุอยู่ขณะนี้

ส.ว. คือ “กุญแจทอง” สู่การยึดอำนาจตรวจสอบ ต้องยอมรับตรงไปตรงมาว่า ส.ว. มีบทบาทมหาศาลในการคัดเลือก หรือให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

เมื่ออำนาจตรวจสอบผูกติดอยู่กับผู้ที่ไม่ได้ยึดโยงกับเจตจำนงประชาชน คำถามคือ องค์กรอิสระจะยัง “อิสระ” หรือไม่?

ในช่วงที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดข้อกังขาว่า พรรคภูมิใจไทยอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามในการจัดวางบุคคลไว้ในตำแหน่งสำคัญในองค์กรอิสระ ผ่านการ “เจรจาภายใน” กับ ส.ว.บางกลุ่ม

อีกด้านหนึ่งมีคำร้องที่ถูกยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย โดยพุ่งเป้าไปยังกลุ่มบุคคลระดับสูงของพรรค

ทั้งนายเนวิน, นางกรุณา ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งหลักอื่น ๆ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า อาจมีบทบาทเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ในการวางตัว ส.ว. หรือใช้ประโยชน์จากโครงสร้างนี้ เพื่อควบคุมอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะการสกัดกั้นการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ

หลายฝ่ายมองว่า ในแวดวงการเมืองที่ “ผลประโยชน์คือเส้นเลือดใหญ่” ความเป็นไปได้ที่จะมี “ดีลลับ” เพื่อยุติความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องเกินจริง ซึ่งดีลลับ “พาทักษิณกลับบ้าน” ที่หลายคนไม่เชื่อ ก็เคยมีให้เห็นมาแล้ว

แหล่งข่าวบางแห่งประเมินว่า อาจมี ส.ว. บางรายถูก “ปล่อยให้พลีชีพ” หรือตัดสิทธิ์ไปบางส่วน เพื่อให้ภาพรวมของปัญหาถูกปิดฉากอย่างรวดเร็ว และรักษาสมดุลผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย

สุดท้าย.. ไม่ว่าคำร้องจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือที่โต๊ะลับดีลอำนาจ ไม่ว่าจะมี ส.ว. พลีชีพกี่คน หรือใครโดนตัดสิทธิ์เพื่อ “ยอมเจ็บแลกจบ” ประชาชนก็ยังเป็นแค่ผู้ชม ไม่มีสิทธิตัดสินใจในเกมที่เดิมพันด้วยอนาคตของประเทศ

เพราะในระบบที่ “โลกจะพังอย่างไรไม่รู้ แต่ผลประโยชน์กูต้องมาก่อน”

ทุกกลไกตรวจสอบ กลายเป็นแค่เครื่องมือไว้กันฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อความยุติธรรม และไม่ใช่เพื่ออนาคตของใคร นอกจากพวกพ้องตัวเอง

การเมืองไทยอาจจะเปลี่ยนตัวละครได้ทุกยุค แต่ตอนจบมันก็หลอกคนดูเหมือนเดิมทุกครั้ง!

แสดงความเห็น