“สมศักดิ์” เผย บอร์ดโรคติดต่อแห่งชาติ เคาะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า-ม่านตา ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หลังที่ผ่านมา พบไม่มีข้อมูล เป็นปัญหาควบคุมโรค พร้อมไฟเขียวเสริมวัคซีนโรคหัดในกลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนใต้ แจง ไม่รู้แพทยสภา เลื่อนถกคดี “อดีตนายกฯทักษิณ”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เข้าร่วม ที่กระทรวงสาธารณสุข
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ได้พิจารณาเรื่องสำคัญคือ นโยบายการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคในกลุ่มคนต่างด้าวประชากรแฝง โดยส่งเสริมการใช้ข้อมูลชีวมิติ (Biometric) เพื่อยืนยันตัวตน โดยระบบพิสูจน์อัตลักษณ์กลุ่มผู้ไม่มีเอกสารประจำตัวเพื่อการสาธารณสุขและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นระบบการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน โดยใช้เทคโนโลยีชีวมิติ การจดจำใบหน้า และการจำลายม่านตา เพื่อสร้างมาตรฐานการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์อย่างแม่นยำ และสนับสนุนระบบบริการสาธารณสุขการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคในบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัว ซึ่งสภากาชาดไทย ได้ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และ NECTEC ในการพัฒนาระบบขึ้น
“ระบบนี้ จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสาธารณสุขของประเทศ สามารถให้บริการด้านสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ถูกคน ถูกเวลา และถูกชนิด รวมถึงสามารถติดตามและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะปัญหาที่ผ่านมา ประเทศไทย มีแรงงานข้ามชาติ ที่ยังไม่มีเอกสารระบุตัวตน เมื่อเจ็บป่วย หรือ รับวัคซีนป้องกันโรค จะสร้างปัญหาด้านการควบคุมโรค และในยามเกิดภัยพิบัติ บุคคลกลุ่มนี้ ไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูล ก็จะทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบในหลักการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และกทม. ประสานงานกับสภากาชาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาจัดทำระบบและแนวทางปฎิบัติเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ และเสนอแผนปฎิบัติการ ต่อคณะรัฐมนตรี ต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว
โดยนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในวันนี้ ได้มีการพิจารณาเรื่องข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชน รวมถึงได้มีการเตรียมการแก้ไขแรงงานที่เข้ามาในประเทศที่ผิดกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถทำทะเบียนประวัติได้ เราก็หาทางที่จะทำการดูแล หรือ ควบคุม ในส่วนการป้องกันโรคระบาด รวมถึงโรคติดต่อ โดยในขณะนี้ เรามีต่างด้าวเข้าประเทศ ประมาณ 5.3 ล้านคน แต่ในส่วนที่ไม่มีเอกสารประจำตัว ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถติดตาม และควบคุมได้ ดังนั้น เราจึงใช้แนวทางของสภากาชาดไทยมาช่วย ในเรื่องของ Biometric Authentication System โดยเป็นระบบที่สอดคล้องกับสภากาชาดไทยจัดทำ จะสามารถควบคุมดูแลได้ ส่วนอีกประเด็น ได้มีการหารือการเสริมวัคซีนโรคหัดในกลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจังหวัดสงขลาบางส่วน เพราะว่า ในพื้นที่มีประชาชน ติดหัดมากกว่าอัตราที่ควรจะเป็น จึงขอให้มีวัคซีนเสริม
เมื่อถามว่า การส่งทีมแพทย์ไปช่วยเมียนมา แต่สังคมมองว่า จะไม่ปลอดภัย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ส่งไปลำพัง เพราะหากกระทรวงการต่างประเทศ ร้องขอมา เราก็เตรียมความพร้อมรอไว้ ทีมละ 40 คน จำนวน 2 ทีม และที่ปรึกษาฯวิชัย ก็มีประสบการณ์ที่เมียนมา จึงรู้สถานการณ์ความไม่ปลอดภัยเป็นอย่างดี โดยเราเป็นผู้ตาม ไม่ใช่ผู้นำ
เมื่อถามว่า แพทยสภา เลื่อนการพิจารณาคดีอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร โดยเลื่อนเพราะเพิ่งได้รับเอกสารใหม่ หรือ ตั้งใจ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ได้เป็นแพทย์สภา เมื่อถามต่อว่า ไม่ได้เป็นคำสั่งจากใครลงมาใช่หรือไม่ที่เลื่อนประชุม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ
แสดงความเห็น
