‘สุทิน’ สอนมวย ‘ส้ม’เล่นเทคนิคซักฟอก ‘คนนอก’ ไม่ต้องพูดชื่อคนก็รู้ ด้าน “สรวงศ์” ชี้ ส่อผิด รธน.

‘สุทิน’ สอนมวย ‘ส้ม’เล่นเทคนิคซักฟอก ‘คนนอก’ ไม่ต้องพูดชื่อคนก็รู้ หยันไร้ข้อมูลหรือไม่ พุ่งเป้าแค่ ‘ทักษิณ’ เหน็บหาทางลงให้ตัวเอง ด้าน “สรวงศ์” บอก ไม่เคยมีญัตติใส่ชื่อคนนอก ชี้ ส่อผิด รธน. โอดผิดหวังฝ่ายค้านยังเล่นการเมืองแบบเดิม

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนยังดื้อดึงไม่นำชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า อยากขอร้องฝ่ายค้านให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ควรจะปรับแก้ สมัยตนทำงานกับพรรคก้าวไกล ประธานชวน หลีกภัย ให้แก้ให้ปรับเราก็ปรับ ถ้าหากว่าพรรคประชาชนไม่แก้คนก็เริ่มสงสัยอีกแบบ

นายสุทิน กล่าวว่า ตนก็สงสัยว่ามีข้อมูลเฉพาะนายทักษิณ อย่างเดียวหรือไม่ ข้อมูลอย่างอื่นไม่มี ถ้าไม่มีนายทักษิณก็จะอภิปรายไม่ได้ อย่างนี้ก็มองได้ แล้วทุกคนจะมองว่าพรรคประชาชนหาเรื่องล่มสภา ทำให้วาระไม่ถูกบรรจุ และโยนความผิดให้ที่ประธานสภา เพื่อให้ความเข้าใจอันดี พรรคประชาชนต้องแก้ ไม่เสียหายอะไร เรายอมแก้ให้กับข้อบังคับยอมถอยกับประธานสภา ไม่เสียหาย และเราจะได้อภิปรายไปตามหน้าที่ การจะพูดก็จะเป็นโอกาสที่ดีของพรรคประชาชน ถ้าไม่ได้พูดก็จะไม่มีโอกาส

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีความกังวลว่าถ้าไม่ใส่ชื่อ องครักษ์จะเริ่มทำงานจนอภิปรายไม่ได้ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เป็นธรรมชาติในสภาฯ ที่ทำกัน การอ้างถึงบุคคลภายนอกถ้ามีพองามเป็นสีสันก็เดินต่อไปได้

“ไม่อยากจะแนะนำในฐานะที่เคยอภิปรายมาเยอะ การจะพูดถึงคนภายนอกไม่ต้องเอ่ยชื่อเขาก็รู้หมด ใช้เทคนิคการอภิปราย นี่อย่าหาว่าแนะนำทำได้ ถ้าเราไปปิดขังตัวเอง ปิดโอกาสตัวเองก็จะเสียโอกาส ตนอภิปรายไม่สนใจเลยว่าต้องเป็นชื่อ พูดอะไรคนก็รู้หมดว่าหมายถึงใคร ถ้าไม่แก้จะถูกมองว่าไม่พร้อมเลยเอาเรื่องนายทักษิณ มาอ้างมีข้อมูลนายทักษิณอย่างเดียวเท่านั้น ฝากด้วยความรักกัน”นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านยืนยันจะไม่เปลี่ยนชื่อ เหมือนเป็นการใช้กระแสสังคมกดดันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้มอง ถ้าหากใช้กระแสสังคมบีบต้องชอบด้วยเหตุผล เพราะมีข้อบังคับที่ชัดเจน อีกทั้งมีธรรมเนียมปฏิบัติ วันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกถูกบีบอะไร ไม่คิดว่ากระแสจะตีกลับ ที่ไม่แก้เพราะไม่มีข้อมูล ยังไม่พร้อมและอยากจะลงอภิปรายโดยใช้วิธีนี้หรือเปล่า เป็นผลเสียมากกว่า

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความจริงแล้วนายกฯ มีความพร้อมที่จะอธิบายและตอบคำถาม เพราะตลอด 5 เดือนที่เข้ารับตำแหน่ง นายกฯ ทำงานเองและตัดสินใจเองทุกอย่าง ดังนั้นการตอบคำถามหรือชี้แจงเองไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่ญัตติที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมองว่าไม่สมควร และส่วนตัวมองว่าผิดรัฐธรรมนูญด้วยที่ใส่ชื่อบุคคลภายนอกที่ไม่มีโอกาสเข้ามาตอบโต้หรือชี้แจงในสภามาอยู่ในญัตติ หากประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุเข้าระเบียบวาระเป็นการประทับตาว่าสามารถพูดถึงบุคคลภายนอกได้เลย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมหรือไม่ หากประธานยอมบรรจุระเบียบวาระโดยที่มีชื่อคนนอก นายสรวงศ์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมอยู่แล้วในการมาชี้แจง หากประธานพร้อมที่จะบรรจุ พวกตนในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็พร้อมอยู่แล้ว แต่การจะพูดบุคคลภายนอกโดยที่บุคคลนั้นไม่สามารถมาตอบโต้ได้ก็ต้องดูตามเนื้อหาที่จะเอามาอภิปรายในสภา

นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ต้องถามกลับไปยังพรรคฝ่ายค้าน และให้ประชาชนตั้งคำถามด้วยว่า สรุปแล้วการยื่นญัตติครั้งนี้หวังอะไร หากหวังจะให้ได้ผลดีกับประเทศในการปรับเปลี่ยนการทำงานของนายกฯ จริงๆ หรือมีการเสนอแนะในการบริหารราชการแผ่นดิน พวกตนไม่มีปัญหาเลย แต่ประเด็นตอนนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างผิดหวัง เพราะหวังที่จะเห็นการเมืองใหม่ๆ แต่สุดท้ายก็กลับไปเหมือนเดิม ซึ่งเราอยู่ในสภา อยู่ในการเมืองมา 20 ปี เราก็เห็นแบบนี้มาตลอด โดยทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้หวังอะไร นอกจากจะพูดเพื่อลดความน่าเชื่อถือของอีกฝั่งหนึ่งเพื่อให้เกิดผลทางการเมือง

แสดงความเห็น