“สมคิด” แซะ “บิ๊กป้อม” ซักฟอกนายกฯ แนะ เลขาฯ พปชร. ติวเข้ม เหตุต้องยืนเป็นชั่วโมง

“สมคิด” แซะ “บิ๊กป้อม” ซักฟอกนายกฯ เย้ย 4 ปีเห็นอภิปราย 2 วิ แนะ เลขาฯ พปชร. ติวเข้ม เหตุต้องยืนเป็นชั่วโมง เตือนฝ่ายค้าน เขียนญัตติแคบ อย่าโวยวายพูดได้ไม่เยอะ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน ระบุรัฐบาลใจแคบที่ให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงไม่กี่วันว่า ในยุคพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชน เคยขออภิปรายรัฐบาล 5 วัน แต่ได้มา 3 วัน โดยมีรัฐมนตรี 11 คน แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนเรื่องจำนวนวันอภิปราย ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ โดยที่วิป 3 ฝ่ายยังไม่มีการพูดคุยกัน ตอนนี้เปรียบเสมือนการขายของ คนซื้ออยากได้ของถูก คนขายอยากขายของแพง

นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลุกขึ้นอภิปรายเมื่อไว้วางใจในครั้งนี้ด้วยนั้น ต้องขอบพระคุณที่ พล.อ.ประวิตรจะลุกขึ้นอภิปราย ซึ่งความจริงมีความเป็นห่วงท่านที่จะอภิปราย เพราะเคยอยู่สภาฯ เท่าที่เคยเห็น 4 ปีท่านอภิปรายได้แค่ 2 วินาที แต่ครั้งนี้เห็นว่า จะยืนเป็นชั่วโมง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณท่าน ไม่เป็นอะไร เราก็เตรียมที่จะตอบรับ ยินดีที่จะอภิปราย และขอให้กำลังใจท่าน โดยขอให้ทีมรอบ ๆ ข้าง รวมไปถึงเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พยายามให้ข้อมูล พล.อ.ประวิตรเยอะ ๆ จะได้พูดคุยกับประชาชนได้ ซึ่งตนเองจะรอดู ไม่ไปไหน

นายสมคิด กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบคำถาม เพราะมีข้อมูลและเหตุผลที่จะตอบ อย่างไรก็ตาม เวทีอภิปรายถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน แต่ครั้งนี้รัฐบาลได้อ่านตามญัตติที่พูดมาคร่าว ๆ ซึ่งจะดูว่า จะพูดเรื่องอะไร และจากการพูดคุยกับวิปรัฐบาล และ สส. ไม่ได้เตรียมองครักษ์พิทักษ์นายกฯแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหวั่นไหวกับข้อมูลของพรรคประชาชนอยู่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องหวั่นไหว หากถามมาก็ตอบไป ซึ่งนายกฯจะตอบมากที่สุด ทั้งนี้ จากการที่ได้ไปดูญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมามีเรื่องการครอบงำ ภาวะผู้นำ เชื่อว่า นายกฯจะสามารถตอบได้ ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนจะไปพาดพิงกระทรวง ทบวง กรมไหน ตัวรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงได้ และจากการพูดคุยเบื้องต้น ญัตติแบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดบ่อยนัก ซึ่งเคยเกิดครั้งหนึ่งในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ นอกจากนั้นเป็นการอภิปรายนายกฯและคณะ หรือรัฐมนตรีรายบุคคล ดังนั้น กรอบการอภิปรายของฝ่ายค้านก็จะง่ายขึ้น เพราะต้องมีการตกลงกันก่อนประชุมว่า ญัตติเช่นนี้จะพูดได้แค่ไหน ซึ่งฝ่ายค้านจะมาโวยวายว่า พูดถึงใครก็ไม่ได้ เพราะเขียนญัตติมาแบบนี้ ทำไมไม่เขียนมาว่าอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และคณะ เพื่อจะพูดได้หมดเลย พอเขียนกรอบแคบ สมาชิกจะยอมหรือไม่ ประธานสภาฯจะให้ทำหรือไม่

แสดงความเห็น