

“มทภ.2” เผย เหตุยาเสพติดทะลักภาคอีสาน ภาคเหนือน้ำท่วม -ปะทะหนัก คนร้ายเบนใช้เส้นทางขนส่งภาคอีสานแทน ชี้ เครือข่ายเส้นทางมีมากหลบจนท.ได้ดี “พล.ท.บุญสิน” ย้ำ บูรณาการทุกภาคส่วนเอาจริงปราบยาเสพติด เผย “นบ.ยส.24” บูรณาการร่วมลุย จับ 4 พ่อค้าพร้อมยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด ที่จ.บึงกาฬ
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( ผบ.นบ.ยส.24 ) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า นบ.ยส.24 สามารถดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สาเหตุที่จับยาเสพติดได้มากในพื้นที่ภาคอีสาน ส่วนหนึ่งอาจมาจากช่วงที่ผ่านมาทางภาคเหนือเกิดเหตุอุทกภัยอย่างหนัก ทำให้การลำเลียงขนส่งยาเสพติดทำได้ยาก ประกอบกับการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้ายทางเหนือมีการใช้อาวุธหนัก ผู้ค้าและผู้ลำเลียงเสี่ยงที่จะเสียชีวิต จึงเปลี่ยนมาใช้ทางภาคอีกสานแทน เนื่องจากทางภาคอีสานมีน้ำเหือง น้ำโขงขวางกั้น สามารถที่จะใช้เป็นเส้นทางที่สะดวกในการส่งข้ามเปลี่ยนจุดได้ง่ายกว่า รวมทั้งเครือข่ายเส้นทางภาคอีสานมีมากจะหลบเจ้าหน้าที่เข้าตอนในได้ดี อีกทั้งในพื้นที่ภาคอีสานยังไม่ปรากฏการใช้อาวุธปราบปรามมากนัก ดังนั้นเราจึงต้องเอาจริงเอาจังปราบปรามทางอีสานอย่างหนัก
พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อว่า ล่าสุด นบ.ยส.24 โดยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนย้ายยาเสพติดมาพักไว้ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะนำเข้ามายังประเทศไทย โดยจุดลักลอบอยู่บริเวณสวนยางรอยต่อบ้านห้วยดอกไม้ กับบ้านท่าอินแปลง เจ้าหน้าที่จึงบูรณาการ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการข่าวที่ 4 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ทำการซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณบ้านห้วยดอกไม้ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิด จนกระทั่งในช่วงค่ำของวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถกระบะอีซูซุดีแมกซ์ ขับเข้ามาในสวนยาง และขนกระสอบจากริมตลิ่งขึ้นท้ายกระบะ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ พบผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10 กระสอบ ประมาณ 4,530,000 เม็ด และรถยนต์กระบะ 1 คัน หลังจากการสอบสวน ผู้ต้องหาได้ซักทอดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน โดยใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำทะเบียน กบ 8743 ปราจีนบุรี เป็นรถนำ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามและจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน รวมผลการปฏิบัติครั้งนี้ จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ของกลางยาบ้าจำนวน 10 กระสอบ ประมาณ 4,530,000 เม็ด และรถยนต์ จำนวน 2 คัน (อีซูซุ ดีแม็ก และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองบึงกาฬ เพื่อทำการสืบสวนขยายผล และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“การสกัดกั้นจับกุมในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ส่วนสกัดกั้นฯ ตอนบน หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 โดยเฉพาะกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 และทุกภาคส่วนที่ได้มีการบูรณาการกำลัง ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุมตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และอยากจะให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

ทั้งนี้ ได้มีการแถลงการจับกุม ที่กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานการแถลงข่าวร่วมกับ พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ , นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 , พันตำรวจเอก ชัยยุทธ ธรรมสุนา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ , พันตำรวจเอก กรณ์ ไชยเสือ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 , นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่
แสดงความเห็น
