Home News การเมือง “สมศักดิ์” ถก...

“สมศักดิ์” ถกคณะอนุฯภาคเหนือ เห็นชอบเป้าหมายพัฒนา 17 จังหวัดภาคเหนือ 20 ปี 

“รองนายกฯสมศักดิ์” ถกคณะอนุกรรมการภาคเหนือ เห็นชอบเป้าหมายพัฒนา 17 จังหวัดภาคเหนือ 20 ปี พร้อมไฟเขียว งบประมาณตามแผนปฎิบัติราชการ 544 โครงการ มูลค่า 9,631 ล้านบาท ยัน ช่วยเร่งรัดโครงการแก้จนเต็มที่ หลังที่ผ่านมา เจอกับดักทางระเบียบ ทำให้โครงการล่าช้า 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม ที่อาคารสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล 

โดยนายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือวันนี้ ได้พิจารณาเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี พร้อมวัตถุประสงค์และทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งข้อพิจารณาทั้งหมด จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ต่อไป โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ และทิศทางการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ แต่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ บางจังหวัดควรกำหนดเป้าหมายย่อย 5 ปี ให้เชื่อมโยงกับเป้าหมาย 20 ปีด้วย 

นายสมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบโครงการและวงเงินงบประมาณ ตามแผนปฎิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ของ 17 จังหวัด และ 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยมีโครงการและงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเบื้องต้น จำนวน 544 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 9,631 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบข้อเสนอโครงการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคเหนือ ปี 2566-2570 รวมจำนวน 102 โครงการ งบประมาณ 70,636 ล้านบาท 

“ในที่ประชุม ยังได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเห็นชอบโครงการในจังหวัดภาคเหนือ ที่เน้นแต่จังหวัดใหญ่ แต่จังหวัดรองลงมา ไม่ได้มีโครงการขนาดใหญ่ อาจทำให้การพัฒนาไม่สอดคล้องกัน รวมถึงมีข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ช่วยลดความตึงลง เพราะหลายโครงการไม่เกิดขึ้นเพราะติดระเบียบ ทำให้การพัฒนาระหว่างจังหวัดยังไม่เชื่อมโยงกัน ซึ่งผมก็ได้เน้นย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กับดักทางระเบียบ ที่นำไปสู่สิ่งที่ทำให้เดินต่อไม่ได้ จนทำให้ไม่เกิดโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ดังนั้น ผมก็ขอให้ทุกภาคส่วนมาช่วยกันเดินหน้า เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้โครงการล่าช้า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะติดระเบียบมากจนเกินไป แต่ผมขอยืนยันว่า จะเร่งรัดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

Exit mobile version