ถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว!
หากดูรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่สวมหมวกขุนคลังอีกใบ แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อน จะรู้ว่า ถอยจากที่หาเสียงเอาไว้เยอะ
ไม่หว่านแจกทุกคน กำหนดสเปกผู้ที่จะได้ และไม่ออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ ‘นักวิชาการ-นักเศรษฐศาสตร์’ ท้วงติงมาก่อนหน้านี้ทั้งนั้น
โดยเฉพาะการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ที่ปิดช่องให้ต้องตีความว่า สถานการณ์ประเทศวิกฤตและเร่งด่วนขนาดนั้นเลยหรือ?
ยอมเสียหน้า โดนแซะว่า ‘ไม่ตรงปก’ แต่ขอให้นโยบายได้เดินต่อ ตามที่สัญญาประชาคมเอาไว้ อย่างน้อยจะได้ไม่เสียคน ตอนหาเสียงคราวหน้าว่า พูดแล้วทำไม่ได้
แต่ครั้นอุตส่าห์ถอยมาหลายก้าว แต่ยังถูกต่อต้านกันเยอะ โดยเฉพาะการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ที่โดนถามดังๆ ทำไมไม่เอาไปอยู่ใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ยังไม่ได้พิจารณากันเลย
ขณะที่ ‘ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น’ รุมต้าน ‘หนูไหม’ ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มองแง่ร้ายว่า ใช้วิธีหา ‘แพะรับบาป’
คือ รู้อยู่แล้วว่า วิธีการนี้ฝ่าด่านยาก แต่ดันทุรัง เหมือนจงใจไปยืมมือคนอื่นทำให้ล่ม เพื่อจะได้บอกประชาชนว่า ทำแล้วนะ แต่มีพวกจระเข้ขวางคลอง
ฟังๆ ‘หนูไหม’ รมว.คลังเงา ดูเหมือนมโน แต่เอาจริงๆ ก็น่าคิดเหมือนกัน
ถ้าไม่ผ่านขึ้นมา พรรคเพื่อไทยจะโดนด่า หรือคนทำให้แท้งจะโดนด่า!?!
แต่ที่น่าสนใจคือ หากจะ ‘แท้ง’ จะแท้งในชั้นไหน เพราะมีผลราคาต้องจ่ายในทางการเมือง
หาก ‘แท้ง’ ตั้งแต่คณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่มีปัญหา ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะยังไม่ได้เสนอเป็นจริงเป็นจัง
แต่ถ้าปล่อยให้ไป ‘แท้ง’ ในสภา งานนี้บอกได้เลยว่า มีคนเดือดร้อน
โดยเฉพาะ ‘เสี่ยนิด’ ที่อาจจะต้องเซ่นความล้มเหลวครั้งนี้!
เพราะโดยธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านาน หากกฎหมายการเงิน หรือกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาลไม่ผ่าน รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบทางใดทางหนึ่งระหว่าง ‘ยุบสภา’ หรือ ‘ลาออก’
แต่ดูแล้วรัฐบาลไม่พร้อมเลือกตั้งเร็วๆ นี้ เพราะกระแสและคะแนนความนิยมยังไม่ดีขึ้น ขืนยุบสภา ‘ก้าวไกล’ ได้ลูบปาก รอบนี้ได้เห็นแลนด์สไลด์ของจริงแน่
หลายฝ่ายให้น้ำหนักไปที่ ‘เสี่ยนิด’ ลาออกคนเดียว เพื่อรักษาสภาไว้ ให้ได้ใช้เป็นกลไกเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐบาลกันใหม่
ซึ่งนั่นทำให้ใครต่อใครมองไปที่ลูกสาวนายใหญ่อย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อาจได้เวลาลงมาวาดลวดลายดีเอ็นเอตระกูลชิน
ใช้คิวนี้เปลี่ยน ‘หัวเรือ’ ซะเลย
