ปคม. ปคบ. สนธิกำลัง ทลายเเหล่งค้าประเวณี กลางกรุง เปิดคลินิกเสริมความงามบังหน้า ใช้สถานที่ค้าบริการทางเพศ พบดัดเเปลงสถานที่ เป็นห้องรองรับลูกค้า รองผู้บังคับการ ปคม. เผย พบช่องโหว่ การค้าในรูปเเบบออนไลน์ที่ยังเกลื่อนเมือง เร่งระดมสายตรวจกวาดล้าง
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย นาย “กัน จอมพลัง” ร่วมกับตำรวจ ปคม. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นคลินิคเสริมความงาม “เคเเอลเวลท์คลินิกเวชกรรม” ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเข้าควบคุมตัว นางสาว นัยนา บุญชู อายุ 34 เจ้าของสถานเสริมความงาม
เบื้องต้นดำเนินคดี ฐานความผิด ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง,ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือ ชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคลนั้นกระทำการค้าประเวณีเเม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และ ไม่ว่าการกระทำ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร , เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี
พันตำรวจเอก สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีการซื้อขายบริการทางเพศ จากการตรวจสอบ ไม่พบการค้ามนุษย์ ไม่พบเด็ก แต่เป็นการค้าประเวณี เจ้าของผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่มีการค้าประเวณี จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับ พร้อมประสาน บก.ปคบ.มาตรวจสอบเรื่องการประกอบกิจการ นอกจากนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวใช้คอนโดมิเนียมในละแวกใกล้เคียงเป็นสถานที่นัดหมายลูกค้ากับผู้ค้าบริการ โดยมีการประกาศเชิญชวน ลงโฆณาผ่านทาวเว็ปไซต์ จากนั้นจึงนัดเเนะกันเเล้วมาใช้สถานที่
สำหรับหลักเกณฑ์ที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ คือ มีการบังคับขู่เข็ญ กักขังหน่วงเหนี่ยว และอายุต่ำกว่ากฎหมาย โดยพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด เร่งตรวจสอบและแบ่งหน้าที่กันตามความรับผิดชอบ เพื่อปราบปรามการค้าประเวณีผิดกฎหมาย ที่ผ่านมามีการจับกลุ่มไลน์ลับมาตลอด โดยตำรวจมีสายตรวจออนไลน์ คอยตรวจสอบ ส่วนกรณีนี้ที่ใช้สถานที่เป็นคลินิกถือว่าไม่แปลก ที่ผ่านมาก็พบบ้าง สำหรับคลินิกแห่งนี้ นิติบุคคลยังไม่ทราบว่ามีการลักลอบค้าบริการหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าเปิดมาไม่นาน
ด้านพันตำรวจโท สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารการประกอบกิจการพบว่าถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า การเข้าบุกทลายเเหล่งค้าประเวณี ครั้งนี้เนื่องจากมีพลเมืองดีนำข้อมูลและคลิปวิดีโอแจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่ามีการซื้อขายบริการทางเพศในคลินิกในหมู่บ้านแห่งนี้ จึงนำข้อมูลไปแจ้งกับตำรวจ บก.ปคม.ก่อนมีการตรวจสอบพร้อมรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับเข้าจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเปิดคลินิกบังหน้า แล้วนำผู้หญิงมาลอบค้าบริการผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วนัดหมายมามีเพศสัมพันธ์ในคลินิกแห่งนี้ ซึ่งมีพนักงานของคลินิก ร้องเรียนว่าเจ้าของคลินิกไม่จ่ายค่าจ้างมาแล้วหลายเดือน บางวันมีผู้มาค้าบริการถึง 10 คน จึงนำข้อมูลร้องเรียนไปยังตำรวจ บก.ปคม. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น
สำหรับการเข้าตรวจค้น เจ้าของคลินิกพยายามยื้อเวลา อ้างว่า ไม่มีกุญเเจ ทำให้ต้องใช้ช่างมาสะเดาห์กุญเเจประตูเข้า เเละการตรวจค้นของของเจ้าหน้าที่ยังพบว่าภายในคลินิกดังกล่าว มีการดัดแปลงสถานที่เป็นห้องต่างๆ อีกหลายห้อง ไว้รองรับผู้มาใช้
