ผบก.นนทบุรี ยัน ล่าสุดได้ปืนคืนกว่า 50 กระบอก หลังพบผู้รับซื้อจากดาบตำรวจทยอยนำปืนมาทิ้งเพิ่มและตรวจยึดได้ เร่งขยายผลนำกลับมาคืน
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เดินทางมาติดตามคดี ดาบตำรวจเชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่งานธุรการ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขโมยปืนของหลวงไปขายต่อ และตรวจสอบปืนของกลางที่ตรวจยึดและมีผู้รับซื้อปืน นำมาทิ้งไว้เพิ่มเติม และชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ดไปนำกลับมาตรวจสอบ โดยระบุว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ได้ปืนคืนมาแล้วกว่า 50 กระบอก ซึ่งมีคนนำมาทิ้งไว้ในพื้นที่ปากเกร็ด และจากการตรวจสอบได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบอาวุธปืน 9 กระบอก ใส่ถุงพลาสติกมาวางทิ้งไว้ในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด จึงนำมาตรวจสอบ เบื้องต้นเป็นปืนพกสั้นยี่ห้อก๊อกและซิกซาวเออร์ ไม่มีเครื่องกระสุน ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบว่าบุคคลใดนำมาทิ้งและนำมาทิ้งตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อว่าจะมีประชาชนติดต่อนำมาคืนให้กับตำรวจเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนผลการตรวจสอบของชุดตรวจค้นเกือบ 10 จุด อยู่ระหว่างการรายงานผล ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยของประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับร้านค้า ร้านทอง หรือโรงรับจำนำตามที่มีข่าวปรากฏ
ส่วนกลุ่มผู้ซื้อและรับจำนำจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และยังไม่มีความเชื่อมโยงหรือข้อมูลกับกลุ่มผู้ซื้อขายต่างประเทศ แต่ยอมรับว่าเส้นทางการหายของปืนมีการจำนำและขาย ซึ่งจะมีความยากลำบากในการติดตามกลับมา แต่ตำรวจจะพยายามตามกลับมาให้ได้ แต่ขณะนี้ก็สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้รับซื้อปืนได้จำนวนมากแล้ว และเชื่อว่าจะมียอดเพิ่มขึ้น โดยมีประชาชนทยอยสอบถามข้อมูลกับตำรวจที่จะนำปืนมาคืน และฝากถึงประชาชนว่าคนไหนที่ครอบครองสามารถสังเกตได้ง่าย จะมีตราสัญลักษณ์โล่ตำรวจก็ขอให้นำมาคืน ส่วนจะพิจารณาโทษหรือไม่นั้นต้องสอบปากคำถึงเจตนาในการได้มาของปืนก่อน
ส่วน สภ.ปากเกร็ด จะมีอาวุธปืนมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือเป็นความลับ แต่ยังมีปืนอีกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังอาวุธ
สำหรับมูลเหตุกรณีปืนหายจากคลังเก็บอาวุธ พล.ต.ต.ไพศาล เปิดเผยว่ามีพลเมืองดีมาแจ้งข้อมูลให้ตนทราบว่ามีปืนจาก สภ.ปากเกร็ด สูญหาย จึงเร่งตรวจสอบโดยใช้เวลาระยะหนึ่งและพบว่าปืนสูญหายไปจากคลังจริง จึงสืบสวนกระทั่งมีการขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ดาบตำรวจเชาวลิต ที่เป็นผู้ก่อเหตุ
แสดงความเห็น
