หาใครแทนไม่ได้ ก็ขาด “ธีรศิลป์” ไม่ได้

DST.Special Report : ก่อนหน้านี้ ‘เจ้ามุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา เคยถูกตั้งคำถามว่า ในวัย 30 กลางๆ ‘โค้ชช้างศึก’ ควรปลดระวางเขาออกจากกองหน้าทีมชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นน้องก้าวมาแทนที่

เหตุผลเพราะ ขณะนี้ทีมชาติได้ให้กำเนิดกองหน้าดาวรุ่งมากมายที่จะมารับไม้ต่อจาก ‘เจ้ามุ้ย’ ไม่ว่าจะเป็น ‘เจ้าอาร์ม’ ศุภชัย ใจเด็ด ‘เจ้าแบงค์’ ศุภนัฏ เหมือนตา จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่ง ‘เจ้าต้น’ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ของสโมสรการท่าเรือ เอฟซี

หลายคนมักพูดว่า ‘เจ้ามุ้ย’ หมดแล้ว กองหน้าทีมชาติไทยได้เลยจุดพีคในชีวิตค้าแข้งเรียบร้อย

แต่ไม่ว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ออกมาอย่างไร จนแล้วจนรอด ไม่ว่าโค้ชทีมชาติไทย หรือโค้ชของสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กลับไม่เคยสนองคำติติงเหล่านั้น

ทั้งโค้ชทีมชาติไทย ทั้งโค้ชสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังคงไว้วางใจ ‘เจ้ามุ้ย’ ให้ลงสนามต่อเนื่อง อยู่ที่ว่า จะในฐานะ ‘ตัวจริง’ หรือ ‘ตัวสำรอง’ เท่านั้น

แม้ล่าสุดในนัดบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กระโดดงับสโมสรโปลิศ เทโร 3-1 ‘ธีรศิลป์ แดงดา’ ถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะสำแดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยการจ่ายแอสซิสต์งามๆ ให้ทีมได้ถึง 2 ลูก

ลูกแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 66 ‘เจ้าเต้’ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล วางบอลยาวให้ “เจ้ามุ้ย’ ก่อนเจ้าตัวจะตวัดบอลจากทางฝั่งซ้าย ให้ ‘เปาโล คอนราโด้’ ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษ จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วยิงสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไป

ลูกที่สอง ‘เจ้ามุ้ย’ คลึงบอลอยู่ในกรอบเขตโทษ พอได้จังหวะจึงป้อนบอลหนีแนวรับทีมเยือนให้ ‘เจ้าเท่’ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่วิ่งทำทางเข้ามาในกรอบเขตโทษ ซัดบอลจังหวะเดียวเข้าประตูไป

บางจังหวะ ‘เจ้ามุ้ย’ สามารถทำประตูเองได้ แต่เขาเลือกจะถวายพานให้เพื่อน ให้น้อง

แน่นอนว่า ‘ธีรศิลป์’ อาจจะไม่สดเหมือนแต่ก่อน จึงทำให้สถิติแต่ละฤดูกาลไม่หวือหวาเหมือนในอดีต แต่ถ้าพูดถึงประโยชน์ในทีม เขามีให้มหาศาล

การมี ‘เจ้ามุ้ย’ ยืนค้ำอยู่ในตำแหน่งศูนย์หน้า มันสร้างความสะพรึงให้กับแนวรับคู่ต่อสู้ได้เสมอ จะเห็นว่า ไม่ว่าทีมใดเจอบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มี ‘ธีรศิลป์’ ยืนค้ำอยู่ พวกเขาต้องสูญเสียแนวรับเพื่อไปประกบนักเตะที่ใครต่อใครชอบพูดว่า หมดแล้ว

‘เจ้ามุ้ย’ มีความแข็งแกร่ง ในขณะเดียว ก็ยังหลงเหลือความปราดเปรียวอยู่แม้อายุอานามจะเข้า 34 ปีก็ตาม และที่สำคัญ เป็นกองหน้าที่เล่นบอลฉลาด สัญชาตญาณเพชฌฆาตเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะในกรอบหรือนอกกรอบเขตโทษ

เหนือสิ่งอื่นใด เขาสร้างโอกาสให้เพื่อนสวยๆ ได้สม่ำเสมอ ไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัว

แล้วในวันที่ใครต่อใครพูดว่า ทีมชาติไทยควรหากองหน้ามาทดแทน เราก็ได้เห็นกันมาหลายครั้งต่อหลายครั้งว่า จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครทดแทนชายที่ชื่อ ‘ธีรศิลป์’ ได้เลย

จะเห็นว่า ในวันที่ไม่มีเขาเรามักเรียกร้องหาเขาเสมอ แต่ในวันที่มีเขากลับมักตำหนิติติง

ดังนั้น มันจึงมีคำกล่าวที่พูดกันออกมาว่า เวลามี ‘เจ้ามุ้ย’ ในสนาม อย่างไรมันก็รู้สึกอุ่นใจมากกว่าไม่มี

นั่นเพราะ ‘มุ้ย’ คือ ‘มุ้ย’ อย่างไงเล่า.

______________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : BG Pathum United

แสดงความเห็น