อย่าปล่อยผ่าน ‘ล้มเหลว’ คิงส์คัพ ถอดบทเรียนไม่มีอะไร ‘สูญเปล่า’

DST.Special Report : หากจะบอกว่า ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย ล้มเหลวในฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 คงไม่ผิดนัก

การคว้าอันดับ 3 แม้จะเป็นรางวัลปลอบใจ แต่การเล่นในบ้าน ในขณะที่อาคันตุกะที่ไปเทียบเชิญมาไม่ได้เป็นพวกศักดินาที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก และทาจิกิสถาน

ฉะนั้น การพลาดแชมป์คือ ความล้มเหล

เพียงแต่ความล้มเหลวนั้น มันไม่ได้เสียเปล่าอะไร เพราะชัยชนะเหนือตรินิแดด แอนด์ โตเบโก 2-1 ในนัดชิงที่สาม มันมีความหมาย

คิงส์คัพ ถูกจัดขึ้นตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ขณะที่ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก มีศักดินาในฟีฟ่าแรงค์กิ้งที่เหนือกว่า ‘ช้างศึก’ ดังนั้น เราได้คะแนนบวกเพิ่ม โดยมีการคำนวณกันว่า น่าจะอยู่ราวๆ ที่ 5 คะแนน

ขณะที่นัดเสมอมาเลเซีย 1-1 ใน 90 นาที และแพ้จุดโทษ ถือว่าเสียหาย เพราะฟีฟ่าแรงค์กิ้งเราเหนือกว่าเสือเหลือง 

อย่างไรก็ดี นอกจากคะแนนฟีฟ่าแรงค์กิ้งที่เราได้จากนัดตรินิแดดฯ สิ่งที่ทำให้เราพอจะยังชุ่มชื้นหัวใจได้นิดหน่อย คือ ประตูออกนำของ ‘เจ้าเช็ก’ ศุภโชค สารชาติ กองหน้าดาวโรจน์ที่ยิงแบบกดสูตรเข้าไป

หลังเกมพ่ายแพ้เสือเหลือง ‘เจ้าเช็ค’ ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด หลังพลาดจุดโทษ

เชื่อว่า ทุกคนไม่ได้โทษน้อง เพราะเขาชนะตั้งแต่กล้าที่จะไปยืนตรงนั้น เพียงแต่หลายคนกังวลใจว่า มันจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเจ้าตัวหรือไม่

สถานการณ์ของ ‘เจ้าเช็ค’ ในคอนซาโดเล ซัปโปโร ตอนนี้กำลังพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก เพื่อไขว่คว้าโอกาสในการลงสนาม 

ที่ผ่านมาน้องได้รับโอกาสจากกุนซือเพียงน้อยนิด ไม่กี่นาที แต่ ‘เจ้าเช็ก’ กลับใช้เวลาคุ้มค่าทุกวินาทีเพื่อจะแสดงให้เห็นว่า เขาดีพอสำหรับเจลีก

ประตูฝังตรินิแดดฯ มันจึงมีความหมายสำหรับเด็กคนนี้มาก โดยเฉพาะสภาพจิตใจที่จะกลับไปต่อสู้ในแดนปลาดิบ

อีกสิ่งดีๆ ในนัดชนะตรินิแดดฯ คือ ฟอร์มของ ‘แก๊งชลบุรี’ ที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริง ทั้งกฤษฎา กาแมน – ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์ 

เหล่า ‘เบบี้ชาร์ค’ ของ ‘โค้ชเตี้ย’ สะสม พบประเสริฐ ทำผลงานได้ดีทุกคน ‘กฤษฎา’ เล่นได้ตามมาตรฐานของเขา แม้จะมีบางส่วนมองว่า เหมาะจะยืนตรงกลางมากกว่าเซนเตอร์แบ็ก

แต่ตรงนี้พอเข้าใจ ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ อยู่ เพราะเฮดโค้ชรายนี้ชื่นชอบเซนเตอร์แบ็กที่บิลต์อัพเกมได้ ซึ่ง ‘กฤษฎา’ เป็นเพียงไม่กี่คนในลีกที่ทำได้ดี

‘ฉัตรมงคล’ เป็นอีกคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แม้มาตรฐานฝั่งซ้ายจะยังไม่เทียบเท่ากับ ‘โก๋อุ้ม’ ธีราทร บุญมาทัน แต่มันทำให้พวกเราพออุ่นใจได้ว่า มีคนที่ดีพอจะรับไม้ต่อจากโก๋ในอนาคตแล้ว

แล้วการมี ‘ฉัตรมงคล’ ยังทำให้เราสามารถโยก ‘โก๋อุ้ม’ ไปเล่นตัวกลางได้แบบสบายใจอีกต่างหาก

ขณะที่ ‘ชาญณรงค์’ นั้น โดดเด่นที่สุดในสนามในนัดชิงที่สาม ‘เจ้าหนึ่ง’ เล่นทีมชาติชุดใหญ่ ได้เข้าขากับสองน้องจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดดีเหลือเกิน

การใช้ ‘เจ้าหนึ่ง’ สอดประสานกับ ‘เจ้าเช็ค’ และ ‘เจ้าแบงค์’ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา มันทำให้แดนหน้าทีมชาติไทยมีมิติมากขึ้น

เด็กสามคนนี้ขยับมารับบอลได้ดี ทำชิ่งกันบ่อย ทำให้เกมรับคู่แข่งทำงานรับลำบาก

จริงๆ ‘เจ้าหนึ่ง’ เป็นชื่อที่แฟนบอลข้องใจ ‘มาโน่’ มากที่สุดว่า เหตุใดไม่ส่งลงตั้งแต่นัดแรก

น้องทำผลงานได้ดีกับสโมสรมากกว่าตัวเลือกแรกๆ ที่ ‘มาโน่’ จับลงตัวจริง

และเมื่อน้องได้โอกาสในนัดกับตรินิแดดฯ ก็ทำผลงานได้ดี สอดรับกับสิ่งที่แฟนบอลเรียกร้อง

และต้องยอมรับว่า ในเกมแพ้มาเลเซีย มันเป็นความผิดพลาดในเรื่องการจัดตัว 11 คนแรก ของ ‘มาโน่’ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ไล่ตั้งแต่คู่กองกลางที่เห็นชัดว่า พลาดอย่างแรง

รายการนี้มันทำให้เราเห็นจุดบกพร่องหลายจุด อย่างน้อยๆ เรื่องการเรียกนักเตะ และการจัดตัวผู้เล่น ที่จะไปฝืนใช้คนที่ตัวเองไว้วางใจอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องดูฟอร์มปัจจุบันในสโมสรด้วย

ถ้าให้มันผ่านก็มันผ่านไป แต่ถ้าเอาจุดบกพร่องไปแก้ไข รับฟังเสียงที่ติเพื่อก่อ มันก็ไม่สูญเปล่า.

_________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก

แสดงความเห็น