ชัชชาติ แจง กระสอบทรายอุดท่อลาดกระบัง เป็นการบล็อกน้ำ คาดลืมนำออก สั่งตรวจสอบเขตอื่นเพิ่ม ย้ำ ไม่มีใครวางยา เพราะถ้าโดน ผอ.เขตโดนก่อน ขอบคุณ “ประวิตร” ลงพื้นที่ทำให้ ประสานงานกรมชลฯง่ายและเร็วขึ้น ยืนยัน การทำงานของกทม.ไม่มีใครข้ามหัวกัน
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดีย มีการแชร์คลิปวีดีโอที่ทหารเรือ ลงไปภายในท่อระบายน้ำและพบกับกระสอบทรายจำนวนมากในพื้นที่เขตลาดกระบัง ว่า หลังจากที่เห็นภาพดังกล่าวตั้งแต่ช่วง 3.00 น. ได้โทรศัพท์สอบถามผอ.เขตลาดกระบังโดยตรงทันที ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า เป็นวิธีบล็อกน้ำในถนน เพราะถ้าน้ำท่วมถนนเยอะๆไม่สามารถดูดออกได้ แล้วน้ำจะวนกลับ จึงต้องไปบล็อกท่อระบายน้ำกั้นแล้วดูดน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำไหลวนกลับเข้ามา เพื่อให้ถนนน้ำไหลสะดวก เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว น้ำก็ไม่ไหลย้อนกลับมา เพราะน้ำทั้งหมดลงแล้ว ก็จะต้องนำกระสอบทรายที่อุดบล็อกไว้ออก ซึ่งหลังจาก ผอ.เขตอธิบาย ตนเองก็ยังไม่เชื่อ จึงได้สอบถามไปยัง นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่ากทม. ที่ดูแลเรื่องการระบายน้ำ ซึ่งท่านยืนยันว่าวิธีนี้ถูกต้องแล้ว แต่ปัญหาที่ผ่านมา อาจจะบล็อกน้ำแล้วลืมเอาออกได้ และอาจจะมีหลายที่ที่ยังค้างอยู่ ซึ่งได้แจ้งให้สำนักการระบายน้ำไปดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม
ทั้งนี้คาดว่าภาพที่เห็น เป็นเพราะหน่วยงานลืมนำกระสอบทรายออกจากท่อ หลังจากที่น้ำในคลองลดระดับ เมื่อมีฝนตกลงมาจุดนี้เป็นจุดเดียวที่น้ำท่วมในจุดอื่นไม่มีน้ำท่วม ประชาชนจึงเกิดข้อสงสัยและขอให้ทหารเรือลงท่อไปช่วยดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนที่ถูกมองว่า กรณีที่เกิดขึ้น อาจเป็นการวางยาหรือไม่นั้น นายชัชชาติ บอกว่า ไม่หรอก ถ้าจะวางยาผม ผอ.เขตก็คงโดนก่อน เพราะเรื่องพวกนี้ปิดกันไม่ได้ ทั้งนี้ก็ขอบคุณประชาชนที่ไปแจ้งทำให้มีการตื่นตัว แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ซึ่งคงต้องมีการสื่อสารให้ชัดเจนมากกว่านี้ว่าทางเขตจะดำเนินการบล็อกน้ำ ดูดน้ำอย่างไร เพื่อให้ประชาชน และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทราบ โดยกทม.ก็จะต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อให้ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ การลงพื้นที่หน้างานด้วยตัวเองที่ผ่านมาจะทำให้ได้รู้ปัญหาและมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ในส่วนปัญหาเรื่องถุงทรายที่อยู่ในท่ออาจจะมีในจุดอื่นอีกจึงขอให้ช่วยกันสังเกตว่ามีพื้นที่ไหนที่มีความผิดปกติและอาจจะใช้วิธีนี้อยู่บ้างให้รีบดำเนินการแก้ไข
ในส่วนแผนการระบายน้ำในพื้นที่เขตลาดกระบังหลังจากเมื่อวานนี้ ที่ตนเองได้พบกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือกันว่าในแผนระยะยาวจะต้องมีการทำทางด่วนน้ำเพื่อเป็นการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วกว่าเดิม เพราะปัญหาของในพื้นที่เขตลาดกระบังคือมีส่วนงานก่อสร้างจำนวนมากที่ไปกีดขวางทางน้ำของคลองทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า อีกทั้งระยะทางของคลองในการมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อระบายเป็นระยะทางที่ไกล การทำทางด่วนน้ำจึงคิดว่าเป็นการตอบโจทย์ในปัญหาเรื่องนี้
ทั้งนี้ ต้องขอบคุณพลเอกประวิตร ที่ติดตามลงพื้นที่ด้วยตัวเองและทำให้การประสานงานกับกรมชลประทาน เป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น เพราะด้วยอำนาจหน้าที่การบริหารงานกทม.อาจจะไม่มีอำนาจมากพอในการสั่งการ ให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำได้มากเท่าที่ควร แต่พลเอกประวิตรเป็นประธาน กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)สามารถสั่งการได้โดยตรง
โดยการบริหารจัดการเรื่องสถานการณ์น้ำในกทม.ที่ผ่านมาได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างดีมาเสมอ ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ให้การช่วยเหลือสั่งการแก้ไขต่างๆจนมาถึงพลเอกประวิตร ที่มีส่วนสำคัญ
สำหรับกรณีการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์น้ำ ของกทม. นั้น นายชัชชาติยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เป็นการทำงานข้ามหัวใคร ไม่มีใครทำงานข้ามหัวกัน ทุกอย่างมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน มีระเบียบแบบแผนในการสั่งการ อย่างเช่นการต้องเปิดประตูระบายน้ำ 2 เซนติเมตรก็จะต้องมีผู้ลงคำสั่งและยืนยันในคำสั่งนั้นฉะนั้นทุกขั้นตอนจึงมีหลักฐานและผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือคำติตนเองไม่ได้กังวลในส่วนนั้น แต่กังวลว่าจะเรื่องที่ประชาชนยังถูกน้ำท่วมอยู่ ซึ่งก็ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำที่มีหลายส่วนส่งมา และในวันเสาร์ ที่17 กันยายน ก็ได้นัดพูดคุยกับ เสรี ศุภราทิตย์ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบ่งเบาความกังวลเรื่องสถานการณ์น้ำร่วมกัน
