ทนายตั้ม พาเหยื่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ ร้อง รมว.ยุติธรรม ให้เพิ่มโทษ-มีมาตรการกระทำผิดซ้ำ  

ทนายตั้ม พาเหยื่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ ร้อง รมว.ยุติธรรม ให้เพิ่มโทษ-มีมาตรการกระทำผิดซ้ำ  ด้าน ‘สมศักดิ์’ เผย กระทรวงมีกฎหมาย JSOC ติดกำไลอีเอ็มคุมประพฤติสูงสุด 10 ปี อยู่ระหว่างโปรดเกล้าฯ ชี้ เหยื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้คุมประพฤติได้ทั้งคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาและคดีที่พ้นโทษไปแล้ว เชื่อ กฎหมายนี้ทำให้เหยื่อลดความกลัวได้

ที่กระทรวงยุติธรรม วันนี้ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมกับ ผู้เสียหายในคดีที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเสนอเพิ่มโทษ ผู้กระทำผิดทางเพศ และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำ 

โดยนายสมศักดิ์ บอกว่า วันนี้ที่ทนายษิทรานำเรื่องดังกล่าวว่าจะทำอย่างไรให้ควบคุมผู้ที่เคยกระทำความผิดเรื่องของเพศ เรื่องความรุนแรง และเรื่องเสรีภาพ ซึ่งเข้ากับแนวทางกระทรวงยุติธรรมที่ได้เสนอกฎหมาย JSOC หรือกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำเรื่องเพศหรือความรุนแรง ซึ่งหากคนที่ทำความผิดเรื่องอนาจาร ข่มขืน เรียกค่าไถ่ ใช้ความรุนแรง หากตัวเขาถูกคุมขังหรืออยู่ในคุก ก็สามารถขอให้อัยการทำเรื่องส่งศาลเพื่อขอให้คุมประพฤติต่อหลังจากพ้นโทษได้ และหากอยู่ระหว่างการพิจารณาหรือพิจารณาโทษออกมาแล้วก็สามารถทำเรื่องเพิ่มโทษได้เช่นกัน

อย่างกรณีที่เป็นข่าวอยู่ ก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอติดกำไลอีเอ็มหลังพ้นโทษ ได้อีก 10 ปี ซึ่งจำนวนปีการคุมประพฤติขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกระทรวงยุติธรรมว่าจะพิจารณาให้ติดกำไลอีเอ็มกี่ปี แต่สูงสุดคือ 10 ปี ทั้งคดีที่เกี่ยวกับเพศ คดีเกี่ยวกับกลุ่มเรื่องเพศ คดีกลุ่มเรื่องชีวิตและร่างกาย และคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายสาหัส รวมถึงคดีเกี่ยวกับเสรีภาพ

โดยขณะนี้กฎหมายผ่าน 2 สภาแล้ว อยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าฯก็จะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ทันที ซึ่งรวมถึงคดีที่ศาลตัดสินไปแล้วก็สามารถขอให้เพิ่มโทษได้ เพราะเป็นการป้องกันคนที่เคยกระทำผิดเกี่ยวกับเพศ หากไม่มีคนคิดตามควบคุมดูแล ก็จะเผลอกระทำอีก โดยจะให้อาสาสมัครกระทรวงยุติธรรมคอยติดตามพฤติกรรม 

ส่วนกรณีเรื่องฉีดไข่ฝ่อ จะต้องให้แพทย์ประเมิน แต่ยังไม่ได้เริ่มใช้เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องขังต้องยินยอมด้วย

ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่กระทำผิดซ้ำนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า จะมีคณะกรรมการประเมินพฤติกรรมตลอดเวลา หากยังพบพฤติกรรมคล้ายลักษณะเดิม ก็สามารถนำมาคุมขังต่อได้สูงสุด 3 ปี ซึ่งเชื่อว่า กฎหมายนี้จะทำให้ผู้เสียหาย ลดความกลัวได้หากผู้ต้องหาถูกพ้นโทษออกมา เพราะจะยังมีการควบคุมพฤติกรรมอยู่

ขณะที่ ทนายษิทรา ระบุว่า กฎหมายนี้หากพ้นโทษออกมาแล้ว จะมีการติดกำไลอีเอ็มดูพฤติกรรมอีก 10 ปีนั้น มองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะป้องกันอาชญากรรมได้

ส่วนคดีของดาราสาววัย 21 ปี ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ส่งไปฝากขังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว ส่วนคดีรองหัวหน้าพรรคฯ ตอนนี้ขึ้นศาลหลายคดีแล้วและบางคดีก็สืบพยานไปบ้างแล้ว

แสดงความเห็น