

รมว.ยุติธรรม เปิดกระทรวงรับทูตอังกฤษ “สมศักดิ์” โชว์ผลงานออกกฎหมายสำเร็จมากกว่า 10 ฉบับ ทุกอย่างทำตามหลักสากล ยันยุคนี้สิทธิมนุษยชนเบ่งบานที่สุด “มาร์ก” ชมทำงานได้รวดเร็ว เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนสิทธิ พร้อมให้ความร่วมมือทุกด้าน
ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้การต้อนรับ นายมาร์ก กุดดิง ( H.E.Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ
นายมาร์ก กล่าวว่า เข้ารับตำแหน่ง เอกอัครราชทูตฯ มาประมาณ 1 ปีแล้ว ได้เห็นความคืบหน้าและความร่วมมือที่ดีของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเห็นว่าเป็นหน่วยงานหลักที่ดีในการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชน โดยวันนี้มีข้อสอบถามหลายประเด็น ได้แก่ สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังในเรือนจำ สวัสดิการ ความเป็นอยู่ การรักษาพยาบาล และสิทธิทางการแพทย์ของผู้ต้องขัง รวมทั้งพัฒนาการของกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และสิทธิของเด็กและผู้หญิง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นที่เอกอัครราชทูตฯ สอบถามข้างต้น กระทรวงยุติธรรมได้เร่งดำเนินการไปเกือบครบถ้วนแล้ว โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มุ่งเน้นให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานสากล อีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้การประกอบอาชีพเพื่อรองรับหลังการพ้นโทษ ให้มีรายได้ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก รวมถึงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการลดความแออัดในเรือนจำจากเมื่อครั้งที่ตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ มีผู้ต้องขังประมาณ 390,000 คน แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 290,000 คน ทำให้เรือนจำไม่แออัด และสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังดีขึ้น ตลอดจนมีมาตรการป้องกันโรคต่างๆ เช่น โควิด-19 ได้ดีอีกด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความก้าวหน้าของกฎหมายฉบับต่างๆ กระทรวงยุติธรรมภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน ได้มีการพัฒนากฎหมายไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 10 ฉบับ เช่น ประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรผู้ค้า และยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ 10 ปีตามมูลค่ายาเสพติดที่ขายไป ซึ่งการยึดทรัพย์หลังบังคับใช้กฎหมายได้ยังไม่ถึง 1 ปี กระทรวงยุติธรรมสามารถยึดทรัพย์ได้มากกว่าอดีตที่ผ่านมาถึง 20 เท่าและเชื่อว่ายาเสพติดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดใน 1-2 ปีนี้ ในส่วนของ ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ขณะนี้ ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไปแล้ว ส่วนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ คาดว่าจะผ่านวุฒิสภาในเดือนนี้ นอกจากนี้ ยังได้จัดทำ ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงและเกี่ยวกับเพศ หรือ JSOC ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งกฎหมายนี้จะทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น

“การแก้ปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนและสังคม ทุกเรื่องเป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งหมด กระทรวงยุติธรรมยุคนี้ทำงานและออกกฎหมายต่างๆล้ำหน้าไปมาก ทำกฎหมายได้รวดเร็ว ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที และผมคิดว่าสิทธิมนุษยชนในยุคนี้เบ่งบานมากที่สุดแล้ว ขอให้ท่านมั่นใจในการดำเนินงานของเรา” นายสมศักดิ์ กล่าว
ท้ายสุด นายมาร์ก ได้กล่าวขอบคุณ นายสมศักดิ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ดำเนินงานต่างๆอย่างรวดเร็ว ยึดหลักสิทธิมนุษยชนและสากลเป็นหลัก โดยทางสหราชอาณาจักรพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับไทยในทุกๆด้าน และต้องขอบคุณที่ช่วยดูแลผู้ต้องขังชาวอังกฤษเป็นอย่างดี และให้สิทธิต่างๆ ที่ควรจะได้รับตามหลักสากล
แสดงความเห็น
