“เศรษฐพงค์” ชี้ “Starlink” กำลังจะครอบคลุมทั่วโลกพร้อมปัญหาผลกระทบทางดาราศาสตร์ 

บทความโดย : พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Elon Musk ได้แถลงถึงความคืบหน้าของจรวด Falcon 9 และดาวเทียม Starlink โดยบอกว่าทั้งสองมีความก้าวหน้าอย่างมากในการดำเนินการ และคาดว่าจะมีดาวเทียม Starlink รวมมากกว่า 4,200 ดวงภายในอีก 18 เดือนข้างหน้า ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ของจำนวนดาวเทียมทั้งหมดที่ปฏิบัติการอยู่ในอวกาศรอบโลก หากการคาดการณ์ของ Musk ถูกต้อง จะทำให้กลุ่มดาวเทียม Starlink จะมีขนาดใหญ่ที่สุดและสามารถให้บริการได้ครอบคลุมมากขึ้น จนในที่สุดจะครอบคลุมการให้บริการทั่วโลก และจะทำให้บริษัท SpaceX สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้ใช้บริการทั่วโลก รวมถึงคนที่ยังไม่เคยได้รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาก่อนเลย ในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มคุณภาพและความเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ที่สำคัญคือ SpaceX จะต้องดำเนินภารกิจ Starlink อย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยในปัจจุบันบริษัท SpaceX เปิดตัวกลุ่มดาวเทียม Starlink โดยใช้จรวด Falcon 9 ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้  และบริษัทยังได้พัฒนาระบบขนส่งอวกาศ Starship ที่มีภารกิจมุ่งสู่ดาวอังคาร อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันบริการ Starlink ของ SpaceX ได้ให้บริการแก่ผู้ใช้งานกว่า 250,000 รายทั่วโลก และการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของเครือข่ายดาวเทียม ยังช่วยเพิ่มความเร็วการส่งข้อมูลและเวลาแฝงของบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ซึ่งปัจจุบันมีความเร็วในการดาวน์โหลดประมาณ 100 Mbps สำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา 

ทั้งนี้ SpaceX ได้รับอนุญาตจาก FCC ในการเปิดตัวดาวเทียมจำนวน 12,000 ดวง และนับตั้งแต่เปิดตัว Starlink ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2019 ได้ส่งดาวเทียม Starlink มากกว่า 2,000 ดวงไปยังวงโคจรแล้ว โดยมีดาวเทียมมากกว่า 1,600 ดวงกำลังปฏิบัติงานอยู่ และขณะนี้ SpaceX กำลังรอการอนุมัติ เพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอีกประมาณ 30,000 ดวง

“การดำเนินงานของกลุ่มดาวเทียม Starlink ทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ในโลก และยังช่วยให้คนทั่วไปและภาครัฐ รวมไปถึงกองทัพให้สามารถเชื่อมต่อกันได้ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน แต่ในทางกลับกันกลุ่มดาวเทียม Starlink ถือเป็นอุปสรรคต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ จนถึงจุดที่ NASA ต้องออกมาเตือนว่ากลุ่มดาวเทียม Starlink ขนาดใหญ่อาจลดความสามารถในการตรวจจับเส้นทางดาวเคราะห์น้อยที่จะชนกับโลก”

ดังนั้นเมื่อดาวเทียม Starlink มีประโยชน์มากมายในด้านการสื่อสาร ก็เป็นหน้าที่ของบริษัท SpaceX ที่จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ NASA เพื่อที่จะจัดการปัญหาอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกับวงการดาราศาสตร์เท่านั้น หากรวมถึงปัญหาอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลออกมาเสมอว่า Starlink มีการทดลองเพื่อการใช้งานทางทหาร เช่น การทดลองเชื่อมต่อกับระบบของกองทัพอากาศ และเชื่อว่ามีการทดลองด้านความมั่นคงที่มีชั้นความลับระดับสูงอีกด้วย แน่นอนย่อมเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับระบบสื่อสารทุกรูปแบบ ซึ่งในที่สุดหน่วยงานกำกับดูแลและรัฐในทุกประเทศจะไม่สามารถห้ามประชาชนในการติดต่อสื่อสารอย่างอิสระ โดยไม่ต้องผ่าน gate way ของประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป และอาจมีผลต่อการควบคุมของรัฐในการใช้ข้อมูลของประชาชนได้อย่างอิสระในรูปแบบ decentralized 

อ้างอิง : https://interestingengineering.com/starlink-to-double-satellites

https://www.cnbc.com/2021/03/12/spacex-prepares-for-air-force-test-of-starlink-satellite-internet.html

แสดงความเห็น