‘ท่าเรือ’ ปลดล็อค ‘ลูปโค้ช’ เหลือปลดล็อค ‘รูปแบบทีม’

DST.Special Report : ผู้คนให้ความสนใจกับการคัมแบ็กไทยลีกของ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ กุนซือชาวอังกฤษกันพอสมควร

ไม่ใช่เพราะ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ เป็นของใหม่ หากแต่เพราะเขาเป็นกุนซือต่างชาติในรอบ 6 ปีของการท่าเรือ เอฟซี 

อย่างที่รู้กัน นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ‘สิงห์เจ้าท่า’ ใช้บริการกุนซือชาวไทยเพียวๆ ได้แก่ ปี 2559–2560 ใช้ ‘จเด็จ มีลาภ’ ปี 2560 ใช้ ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก่อนจะกลับมาใช้ ‘จเด็จ’ ในปี 2560–2562

จากนั้นในปี 2562-2563 ใช้ ‘โชคทวี พรหมรัตน์’ แล้ววกกลับ ‘จเด็จ’ อีกรอบในปี 2563 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ‘สระราวุฒิ ตรีพันธ์’ ในช่วงปี 2563–2564 ต่อมาเปลี่ยนมาเป็น ‘ดุสิต เฉลิมแสน’ ในปี 2564 

รีเทิร์นกับ ‘สระราวุฒิ’ ในปี 2564–2565 หลังจากนั้นหันไปใช้ ‘วีรยุทธ์ บินอับดุลเลาะมาน ‘รักษาการ ก่อน ‘จเด็จ’ จะคัมแบ็กเป็นคำรบที่ 4 

ลำพังกุนซือสัญชาติไทยไม่เท่าไหร่ แต่ที่ทุกคนคาใจคือ การใช้กุนซือแบบ ‘วนลูป’ จนถูกล้อว่า เป็น ‘ลูปนรก’

ดังนั้น การที่ผู้บริหารตัดสินใจดึง ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ สำหรับแฟนบอลถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของการเริ่มต้นด้วยการ ‘สลัดลูปโค้ช’

สำหรับ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ ถือเป็นโค้ชมีของ พิสูจน์วิทยายุทธมาแล้วสมัยคุมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด และอุบล ยูเอ็มที อาจมีภาพทรงจำไม่ดีบ้างเมื่อครั้งตอนคุมเทโร แต่โดยรวมถือว่า มีของ

ไม่รู้ว่า นอกเหนือจากการที่ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ รู้จักฟุตบอลไทยดี ยังมีเหตุใดที่ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ บิ๊กบอสแห่งแพท สเตเดี้ยม ถึงเลือกเขา

พูดกันตรงๆ กุนซือต่างชาติโปรไฟล์ดี ยังมีอีกมาก แต่การที่ ‘มาดามแป้ง’ เลือกกุนซือชาวเมืองผู้ดี มันต้องมีเหตุผลมากกว่านั้น

แน่นอนล่ะว่า มันต้องเป็นต่างชาติ ส่วนหนึ่งเพราะเสียงเรียกร้องที่มีมานานแล้ว แต่ทำไมต้องเป็นเขา

จะด้วยคอนเนกชั่น หรือคำแนะนำอะไรจากใคร มองว่า สิ่งหนึ่งที่ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ มีคือ เขาเคยคุมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีลักษณะการทำทีมในรูปแบบที่แฟนบอลชอบล้อกันว่า ‘เฮดโค้ชของเฮดโค้ช’ มาก่อน

การทำงานระหว่าง ‘เนวิน ชิดชอบ’ พ่อใหญ่บุรีรัมย์ กับเขาค่อนข้างราบรื่นไปด้วยดี ซึ่งทำการทำทีมของ ‘สิงห์เจ้าท่า’ ในปัจจุบันก็มีความคล้ายคลึงกัน

แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องนี้เพียงอย่างเดียวก็ได้

ขณะที่ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ เขาเองประกาศว่า ต้องการทำการท่าเรือให้ชนะอย่างมีสไตล์ และเขายังหวังจะปลดล็อคให้ทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จให้ได้ 

ถ้าโดยฝีมือ เชื่อว่า ‘สก็อตต์ คูเปอร์’  ทำได้ เพราะเป้าหมายเขาไม่ได้สูงเกินตัว โดยตั้งเป้าว่า อยากได้แชมป์ แต่ถ้าไม่ได้แชมป์ ต้องได้โควตา เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 

มันดูค่อยเป็นค่อยไปดี แต่สิ่งที่ทุกคนเฝ้าจับตามองคือ ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ จะได้รับอิสระแค่ไหน เพราะโค้ชหลายคนต้องจากทีมไป เพราะปัญหาเรื่องนี้

‘ท่าเรือ’ ถูกปรามาสเยอะว่า เป็นฟุตบอลแบบ ‘ครอบครัว’ มันเลยทำให้พวกเขาก้าวจากคอมฟอร์ทโซนไม่สำเร็จสักที

มีคนบอกว่า ท่าเรือนั้นเพียบพร้อม เจ้าของทีมทุ่มเท เอาใจใส่ มีทุนทรัพย์จะซื้อนักเตะคนไหนในไทยลีกก็ได้ แต่ติดอยู่ข้อเดียวคือ เรื่องนี้

ฉะนั้น ลำพัง ‘สก็อตต์ คูเปอร์’ จะปลดล็อคคนเดียวคงไม่พอ สโมสรต้องปลดล็อคตัวเองด้วย

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เคยประสบปัญหานี้มาก่อนสมัยเป็นบางกอกกล๊าส ที่ซื้อผู้เล่นมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักที พอวันหนึ่งตกชั้น พวกเขาปฏิรูปตัวเองใหม่หมดแล้วกลับมาอย่างองอาจ

ผู้บริหารสโมสรรู้ปัญหาที่สุดว่า จะทำอย่างไรถึงจะเดินไปข้างหน้าได้

เพราะต่อให้โค้ชเก่งกาจแค่ไหน แต่ถ้าเจอลูปเดิมก็เอาชื่อมาทิ้ง

เชื่อว่า ผู้บริหารรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร 

บางทีนี่อาจเป็นฤดูกาลของการปลดล็อคก็เป็นได้.

___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : การท่าเรือ เอฟซี Port FC

แสดงความเห็น