“สมศักดิ์” หารือ รมต.ยธ.ญี่ปุ่น  โชว์ปราบยา อ้อนโรงงานญี่ปุ่นในไทย รับผู้ต้องขังพ้นโทษทำงาน 

“สมศักดิ์” หารือ “รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่น” ชู เป็นต้นแบบการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ชื่นชม หลังไปดูงาน ได้นำหลายอย่างกลับมาใช้ที่ไทย โชว์ผลงานปราบยาเสพติด เชื่อ 1-2 ปี เบาบางลงแน่ อ้อนโรงงานญี่ปุ่นในไทย รับผู้ต้องขังพ้นโทษเข้าทำงาน 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ นายฟุรุคาวะ โยชิฮิสะ (H.E. Mr. FURUKAWA Yoshihisa) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายนาชิดะ คาซึยะ (H.E. Mr. NASHIDA Kazuya) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ  ที่กระทรวงยุติธรรม 

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น เดินทางมาเยือนกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตนได้ทราบถึงความตั้งใจของนายฟุรุคาวะ จึงรู้สึกยินดี ที่จะให้ความร่วมมือในทุกด้าน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความยุติธรรมของเราทั้ง 2 ประเทศ เพราะที่ผ่านมา เราก็มีความสัมพันธ์ที่ดี และคนไทยก็มีความนิยมชมชอบชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทยก็มีจำนวนมากเช่นกัน 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อครั้งตนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอื่น ได้มีโอกาสไปดูงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งขอชื่นชม เพราะเมื่อได้ไปเห็นสิ่งที่ญี่ปุ่นทำ ก็ได้นำกลับมาปรับใช้กับประเทศไทย โดยเป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ได้ต้นแบบมาจากการดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีนางสาวโทโมโกะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆาตกรรมเมื่อปี 2550 ว่า เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ได้เริ่มดำเนินการศึกษาเรื่องใหม่ทั้งหมด รวมถึงได้ตรวจสอบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยถึง 364 คน โดยได้ตรวจสารพันธุกรรมที่อยู่บนเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต ซึ่งสามารถระบุได้ว่าเป็นของผู้ชายที่มีเชื้อชาติของกลุ่มประเทศบริเวณเอเชียตะวันออก และได้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวให้แก่สำนักงานกลางแห่งชาติ ตำรวจสากลโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แล้ว ทั้งนี้ หากมีเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติมอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อคดี กระทรวงยุติธรรม จะทำการสืบสวนสอบสวนใหม่อีกครั้ง 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดว่า ไทยได้เปลี่ยนวิธีใหม่ทั้งหมด จากเดิมจับกุมพ่อค้ายา เป็นจับกุมและยึดทรัพย์สินของเครือข่ายทั้งหมด ทำให้เชื่อว่าใน 1-2 ปี ยาเสพติด จะเบาบางลงมาก และเรื่องการส่งออกไปต่างประเทศ ก็จะต้องน้อยลง เนื่องจากกฎหมายเรารุนแรงมาก ส่วนผู้เสพที่ถูกจับกุมได้ เราจะส่งไปบำบัด เพราะปริมาณผู้ต้องขังในเรือนจำกว่า 80% เป็นคดียาเสพติด นอกจากนี้ เรื่องผู้ต้องขัง ไทยก็มีความพยายามผลักดันให้มีงานทำเมื่อพ้นโทษ เพื่อป้องกันกระทำผิดซ้ำ โดยในเรือนจำ เรามีการฝึกอบรม แต่ออกมาสังคมยังไม่ค่อยยอมรับ รัฐบาลจึงต้องช่วยขับเคลื่อนในเรื่องนี้  เพื่อให้ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษมีงานทำ ดังนั้น ตนจึงขอใช้โอกาสนี้ ประชาสัมพันธ์โรงงานญี่ปุ่นในไทย ให้ช่วยรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษ และผ่านการอบรมเป็นอย่างดีแล้วเข้าทำงานด้วย  

ขณะที่ นายฟุรุคาวะ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย ได้สร้างความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน โดยได้มีการแลกเปลี่ยนในหลายด้าน และตนรู้สึกน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา จึงขอใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณ ที่ช่วยทำให้การประชุมสำเร็จได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด เมื่อตนฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาก เพราะญี่ปุ่น ก็พยายามแก้ปัญหานี้อยู่

แสดงความเห็น