รมว.ยธ. ช่วยแก้หนี้เมืองนางฟ้า-ชาละ สาวเชียงใหม่นั่งรถทัวร์มาร่วมงานเฮได้ปิดบัญชีหนี้ 

รมว.ยุติธรรม ช่วยแก้หนี้เมืองนางฟ้า-ชาละวันคนร่วมงานแน่น สาวเชียงใหม่นั่งรถทัวร์มาร่วมงานเฮได้ปิดบัญชีหนี้ ชาวนครสวรรค์ยิ้มแก้มปริได้ที่ดินค้ำประกันคืน 

ที่มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน จ.นครสวรรค์ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ น.ส.ชุติพร เสชัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายสันติ จันทร์เผิบ รองปลัด อบจ.นครสวรรค์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี  พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ต.ท. พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมากจนแน่นงาน โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเจ้าพระยาได้มีการแต่งเพลงเพื่อเป็นการขอบคุณนายสมศักดิ์ รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมที่ได้จัดงานไกล่เกลี่ยหนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเป็นการแปลงเนื้อร้องมาจากเพลง สามโห่สามช่า 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ครั้งที่ 37 มีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 5,653 ราย  ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ  910 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,176 คน สำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่ง ขอบคุณมหาวิทยาลัยเจ้าพระยาที่แต่งเพลงให้ 

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เปิดบูธนิทรรศการ และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหนี้ก่อนฟ้อง กยศ. ยอดหนี้ 170,000 บาท ส่งไปแล้วเหลือ 104,000 บาท ผลการเจรจา กยศ. ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับให้เหลือ 60,800 บาท ให้ผ่อน 144 งวดๆละ 450 บาท อีกรายเป็นหนี้  105,000 บาท ผ่อนมา 16 ปี เหลือ 27,043 บาท กยศ. พิจารณาว่าที่ส่งเป็นดอกเบี้ย หักกลบลบหนี้ให้ปิดหนี้ โดยผู้กู้นั่งรถทัวร์มาไกลจากเชียงใหม่ รายต่อมาเป็นหนี้หลังฟ้องธนาคารออมสินเงินต้นรวมดอกเบี้ย 1,020,000 บาท ธนาคารให้ส่งเดือนละ 7,000 บาท ขอเจรจาขอผ่อนเดือนละ 2,700 บาท เป็นเวลา 1 ปีและหากส่งได้ตรงเวลาจะลดค่าดอกเบี้ยให้อีก 160,000 บาท อีกรายเป็นหนี้หลังฟ้อง เป็นผู้ค้ำประกันให้เพื่อนกู้ซื้อรถ โตโยต้า ลิสซิ่ง แล้วหนี จึงยึดทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และเหลือหนี้อีก 76,385 บาท ผลการเจรจาโตโยต้าเสนอปิดบัญชี 30,000 บาทและคืนทรัพย์สินที่ค้ำประกัน และไม่เก็บค่าธรรมเนียม รายสุดท้าย เป็นหนี้โตโยต้า ลิสซิ่ง 160,000 บาท และถูกอายัดเงินปันผลสหกรณ์ ลดให้เหลือ 80,000 บาท แต่ผู้กู้ขอปิดไม่ไหวขอผ่อนเดือน 1,500 บาท และยกเลิกการอายัดบัญชี ซึ่งหากวันข้างหน้าพร้อมจะมาปิดบัญชีด้วยเงื่อนไขนี้ 

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายสมศักดิ์ และคณะได้เดินทางด้วยรถยนต์ไปยัง แฮปปี้พลาซ่า คอนเวนชั่นฮอล์ จ.พิจิตร เพื่อเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน จ.พิจิตร โดยมี นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายวิทยา ยิ้มบิตุรงค์ รองนายก อบจ.พิจิตร นายภูดิท อินสุวรรณ์ นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร พรรคเศรษฐกิจไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้  4,870 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น  247 ล้านบาท 

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เปิดบูธนิทรรศการ และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหนี้ก่อนฟ้อง กยศ. กู้มา 190,000 บาท ส่งมาแล้ว 17 ปี ยังเหลือค้างอีก 21,000 บาท ทางกยศ.ลดค่าดอกเบี้ยให้เหลือ 0 บาทปิดบัญชี รายต่อมา เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ธนาคารออมสิน 1.5 ล้านบาท โดยขอให้ทางธนาคารช่วยปลดภาระการค้ำประกัน

แสดงความเห็น