วัยรุ่นช้างศึก ผ่าน 2 นัดบูรณาการลงตัว นัดฎีกาไม่มีฟ้าลิขิต มีแต่ ‘โย่งลิขิต’

DST.Special Report : ‘โค้ชโย่ง’ วรวุธ ศรีมะฆะ ยังคงเป็นของแสลงที่ ‘เสือเหลือง’ มาเลเซีย เคี้ยวไม่เข้า กลืนไม่ลง

เจอกัน 5 ครั้งมานี้ ‘โค้ชโย่ง’ ถอดเขี้ยวเล็บมาเลเซีย ด้วยการชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด

ใครจะว่าแกอย่างไร แต่กับเสือเหลือง อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยกำราบเป็นของง่ายเสมอมา เฉกเช่นเดียวกับนัดล่าสุด ที่ชำแหละเสือไป 3-0

ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย ไม่พลาด 3 แต้ม และรักษาคลีนชีตได้ด้วย อันส่งผลดีหากสุดท้ายกลุ่มนี้ต้องมาวัดกันด้วยประตูได้-เสีย

นัดสุดท้าย ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย จะต้องปะดาบกับ ‘โสมขาว’ เกาหลีใต้ ตัวเต็งในรายการนี้ ถือเป็นแมตซ์สำคัญอย่างยิ่งยวด

แม้ผ่านไป 2 เกม ‘ช้างศึก’ จะขึ้นมารั้งจ่าฝูงได้ แต่หากนัดสุดท้ายเราแพ้ขึ้นมา ในขณะที่คู่รักคู่แค้นดินแดนเอเชียอาคเนย์อย่างเวียดนาม สามารถเอาชนะมาเลเซียได้ 

จาก ‘จ่าฝูง’ จะร่วงลงมาที่ 3 และจะอยู่ในสถานะ ‘ตกรอบ’ ทันที

แม้โดยทฤษฎี ไทยจะต้องการแค่แต้มเดียว เพื่อการันตีการเข้ารอบน็อคเอาต์ แต่ 1 แต้มนี้เป็นแต้มที่ใหญ่มากๆ เพราะต้องเอาจากเกาหลีใต้ ที่ดันพลาดสะดุดเสมอกับเวียดนาม ทำให้ต้องลุยเต็มสูบในเกมนี้เหมือนกัน

หลายคนมองว่า ง่าย เพราะเล่นแค่เสมอก็เข้ารอบชิลๆ แต่ประทานโทษ การเล่นให้เสมอบางครั้งอาจยากกว่าเล่นให้แพ้หรือชนะเสียอีก

ขณะเดียวกัน ยังมีอีกส่วนให้เราไปช่วยเชียร์มาเลเซีย เพื่อให้ยันเสมอเวียดนามให้ได้ เพราะจะทำให้เราโอกาสเข้ารอบเราสดใส โดยไม่ต้องสนผลแพ้-ชนะในเกมกับเกาหลีใต้

แต่เดี๋ยวก่อน เวียดนามเองก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะเอา 3 แต้มจากมาเลเซียให้ได้อย่างมาก ดังนั้น หากเราจะพึ่งมาเลเซีย เราควรพึ่งจมูกตัวเองในการหายใจน่าจะง่ายกว่า

แม้ศักดินาในเวทีเอเชียเราจะเป็นรองเกาหลีใต้ แต่สำหรับศักยภาพผู้เล่นยู 23 ชุดนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่เพียงแค่เสมอ แต่เรายังคิดถึงขั้นเอาชนะได้ด้วยซ้ำไป

มันอยู่ที่แท็กติกของ ‘โค้ชโย่ง’ จริงๆ ว่าจะเซ็ตโปรแกรมให้เล่นกันอย่างไร

ในเกมถล่มมาเลเซีย อาจมีคนมองว่า เขาด้อยกว่าเรา จึงไม่อยากให้ผยองลำพองใจไปกับชัยชนะที่ได้รับ แต่หากแสกนให้ลึกลงไปในเกมนั้น ไอ้หนูยู 23 เล่นเข้าขากันมากขึ้นกว่านัดแรก

เกมรุกรู้ใจกันมากขึ้น นักเตะไทยแท้-ลูกครึ่ง เหมือนจะจูนจนเจอจุดที่คลื่นความถี่ชัดแล้ว

แผงรับ โจนาธาน เข็มดี กับ วันชาติ ชูสงค์ 2 เซนเตอร์แบ็ก ค่อนข้างลงตัว ขณะที่แบ็ก 2 ข้าง หมดห่วง และเป็นจุดได้เปรียบเสียด้วยในตอนนี้ แบ็กขวา ‘ลูกโซ่’ นิโคลัส มิคเคลสัน โชว์ให้เห็นถึงคลาสยุโรปที่โคตรสตรอง ส่วนแบ็กซาย ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ไว้ใจได้

คู่กลางโคตรนัว กฤษดา กาแมน กับ ‘เจ้ากันต์’ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร นิ่งเกินวัย 

ส่วนตัวรุก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เบน เดวิส, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และเอกนิษฐ์ ปัญญา ที่เข้าที่เข้าทางแล้ว ทำให้เราตื่นตาตื่นใจอย่างมากกับเทคนิคส่วนตัวในเกมกับมาเลเซีย

อีกจุดที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ ‘นพพล ละครพล’ นายประตูมือสองของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้กลับมาลงในเกมนัดที่สอง พอได้ ‘นพพล’ มา รู้สึกอุ่นใจมากกว่าเดิมขึ้นมาก

เด็กคนนี้นิ่ง แม้ร่างกายค่อนข้างตัวเล็ก แต่ไม่เสียเปรียบลูกกลางอากาศเลย ออกมาตัดบอลแต่ละครั้งแม่นเป๊ะ ไม่มีผิดจังหวะ หรือคว้าลม ที่สำคัญ มีปฏิกิริยารวดเร็ว เซฟลูกยากได้บ่อย

อีกจุดเด่นของตัวตายตัวแทนของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ในบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดคือ เปิดบอลแบบมียุทธศาสตร์ ไม่มั่ว

เด็กเรามีของ และเชื่อมั่นอย่างมากว่า สู้ได้ มันอยู่ที่แท็คติกจริงๆ

ไม่มีคำว่าฟ้าลิขิต แต่นัดสุดท้ายอยู่ที่ ‘โค้ชโย่งลิขิต’ ต่างหาก. 

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก

แสดงความเห็น