“บิ๊กป๊อก” พร้อมสนับสนุน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ มั่นใจ พัฒนากทม.ได้ เพราะมีความตั้งใจทำงาน

“บิ๊กป๊อก” พร้อมสนับสนุน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ มั่นใจ พัฒนากทม.ได้ เพราะมีความตั้งใจทำงาน ลงพื้นที่ฟังปัญหาต่อเนื่อง แซว ฝากตัวในฐานะคนกทม. บ้านอยู่ทวีวัฒนา ฝากดูแลด้วย  ยัน รัฐบาล ไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการทำงานของผู้ว่าฯกทม. จึงไม่เกี่ยวกับรอยต่อ เตรียมทำหนังสือขอแนวทางแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อนเสนอทางออกให้ ครม.

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร​ นัดแรก ​โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพร้อมคณะผู้บริหารกทม. เข้าร่วม ที่ศาลาว่าการกทม.ดินแดง

โดย พลเอกอนุพงษ์​  ให้สัมภาษ​ณ์ภายหลังเปิดการประชุม​ว่า วันนี้เป็นการเปิดการประชุมสภาครั้งแรกตามกฎหมาย หลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประกาศรับรองตำแหน่ง ซึ่งตนได้หารือกับผู้ว่าฯกทม. และปลัดกทม. มาตลอดจนถึงวันนี้ที่มีการเปิดประชุมสภา โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยเรื่องการทำงานแบบภาพใหญ่

ทั้งนี้ผู้ว่าฯกทม.ได้แสดงเจตนารมณ์ในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของ กทม. และพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง โดยจะร่วมทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก

พล.อ.อนุพงษ์​ ยังบอกอีกว่า ผู้ว่าฯคนนี้เป็นคนที่มีความตั้งใจสูงและเป็นที่ถูกใจของประชาชน และบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดี ซึ่ง กทม.ไม่มีบรรยากาศการทำงานแบบนี้มาหลายปีแล้ว

นักข่าวถามว่า ในฐานะที่ ท่านต้องเป็นตัวเชื่อมการทำงานระหว่างรัฐบาลกับ ท้องถิ่นอย่าง กทม. เพื่อไม่ให้มีรอยต่อจะมีปัญหาอย่างไรหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์​ ยืนยัน ว่า ไม่มีแน่นอน เพราะกทม.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอำนาจหน้าที่ ในการทำงานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงใช้คำว่าไม่ต้องใช้ความเห็นชอบจากใคร ตามอำนาจหน้าที่หากมีแผนพัฒนา และข้อบัญญัติก็สามารถทำได้เลยไม่มีปัญหา และตนเองก็ไม่มีอำนาจที่จะไปก้าวก่ายการทำงานของท่านผู้ว่า กทม. ซึ่งการกำกับดูแลจะต่างกับการบังคับบัญชา เพราะ กทม.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอิสระ ดังนั้นจึงทำได้ตามอำนาจหน้าที่ไม่เกี่ยวกับรอยต่อ และท่านผู้ว่ามีแนวทางที่จะดูแลประชาชน และประชาชนก็ตอบรับ จึงไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น แต่หากมีเรื่องใดที่ต้องได้รับการสนับสนุน จากรัฐบาล ตนพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่

พล.อ.อนุพงษ์ ยังเชื่อมั่นว่า กรุงเทพมหานคร จะพัฒนาระบบการปกครองไปได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีผู้ว่าฯกทม. ที่ชื่อ ชัชชาติ เพราะมีความตั้งใจทำงาน ลงพื้นที่ รับฟังปัญหาตลอด ทุกเรื่องก็ลงไปดูแลจัดการ เชื่อว่าผลจะต้องออกมาดีแน่นอน

เมื่อนักข่าวถามว่า ในวันที่ 3 มิถุนายน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ว่า กทม. ได้ทักทายกันอย่างไม่เป็นทางการ รวมถึง รัฐมนตรีหลายคน ร่วมแสดงความยินดีและไปถ่ายรูปด้วย จะเป็นบรรยากาศการทำงานที่ดี ต่อไปหรือไม่  พลเอกอนุพงษ์ บอกพร้อมหัวเราะ อย่างอารมณ์ดี ว่า ตนเองก็เป็นประชากรอยู่ในกรุงเทพมหานครคนหนึ่ง ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ว่าฯชัชชาติ บ้านช่องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ว่าฯ

นักข่าวถามอีกว่า  หลังจากกระแสของนายชัชชาติ ดังทำให้จังหวัดอื่นๆเรียกร้อง อยากเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดบ้าง หลังมีกระแสการทำงานของนายชัชชาติ พลเอกอนุพงษ์ ระบุว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์  เพราะมีความแตกต่างกัน ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ที่มีหน้าที่บริการสาธารณะ แต่ในพื้นที่อื่นๆไม่ได้มีหน้าที่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าที่เชื่อมต่อ อำนาจจากส่วนกลางลงไปในพื้นที่ ยึดโยงกับพื้นที่คนละอำนาจกันซึ่งในขณะที่นักข่าวถามคำถามนี้ นายชัชชาติยิ้มและส่ายหัว เป็นเชิงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นกระแสดัง

และในช่วงท้าย ภายหลังการสัมภาษณ์ นายชัชชาติ ได้ยกมือไหว้ พลเอกอนุพงษ์ พร้อมพูดว่า “ตนเองสิ ที่ต้องฝากตัว กับรัฐมนตรีมหาดไทย ไม่ใช่ให้รัฐมนตรีมหาดไทยมาอยู่ในการดูแลของผู้ว่า กทม.” ซึ่ง พลเอกอนุพงษ์ จึงตอบว่า “บ้านผมอยู่เขตทวีวัฒนา นะ อยู่ภายใต้ท่านการดูแลของท่าน ฝากไปดูแลด้วย”

ส่วนกรณีการสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. ที่ผ่านมา กทม.มีปัญหาแล้วหาทางแก้ไขไม่ได้ ก็ให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ช่วยหาทางแก้ไข ซึ่งขณะนี้ แนวทางการแก้ไข ของการเจรจารอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่และจะต้องรอดูว่าจะเห็นชอบหรือไม่ แต่เมื่อมีผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ มีสภาใหม่ ตนจะทำหนังสือมาถามว่า กทม.จะมีแนวทางอย่างไร หาก กทม.แจ้งว่ามีแนวทางดำเนินการอย่างไรที่ เป็นข้อยุติ ตนเองก็จะนำเรื่องเข้า ครม.เพื่อไม่ต้องขอมติ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ว่าฯ จะหาแนวทางที่จะแก้ไขอยู่แล้ว ซึ่งทาง ก.มหาดไทยก็จะหาร่วมมือกันในการแก้ไขเช่นกัน โดยพร้อมรับแนวทางเข้าไปเสนอ ครม.เพราะหากกทม.ดำเนินการได้เองเรื่องก็จบ

แสดงความเห็น