ตำรวจ คุมตัว ปริญญ์ ส่งศาลฝากขัง ผัดแรก 12 วัน ค้านประกัน ด้าน ปริญญ์ ยัน ไม่มีการเสนอเงินให้เหยื่อจบคดีตามที่เป็นกระแสข่าว ขณะที่ รองผบช.น. เผย ไม่กังวล กรณีเสนอเงิน ระบุ สอบปากคำผู้เสียหายที่แจ้งความหมดแล้ว
พนักงานสอบสวน คุมตัว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเรา เดินทางออกจาก สน.ลุมพินี เพื่อนำตัวไปส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายหลังศาลรับฝากขังผัดแรก 12 วัน โดยตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้น และคุมตัวนายปริญญ์ขึ้นรถตู้ไปทันที โดยไม่มีการตอบคำถามนักข่าว
จากนั้น เมื่อมาถึงศาลอาญากรุงเทพใต้ นายปริญญ์ ตอบคำถามนักข่าว ระบุว่า ยังยืนยันความบริสุทธิ์ และขอย้ำ ให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีที่ทนายตั้มได้มีการโพสต์ว่า มีการเสนอเงินให้กับผู้เสียหาย เพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวทางคดีนั้น นายปริญญ์ ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน
เมื่อนักข่าวถามว่า รู้จักผู้เสียหายทุกคนหรือไม่ นายปริญญ์ โบกมือปฏิเสธ ก่อนที่จะเข้าไปภายในศาล
ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ระบุถึงคามคืบหน้าคดีว่า วันนี้ตำรวจได้ยื่นคำร้องขอฝากขังทั้งต่อศาล ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุมัติให้ฝากขัง12 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องยื่นคัดค้านการประกันตัว แต่ผู้ต้องหาร้องขอต่อศาลว่าจะขอประกันตัว จึงต้อง นำตัวไปที่ศาล
โดยพล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุถึง เหตุผลที่ยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะว่านายปริญญ์เป็นผู้ต้องหาในหลายคดีและผู้ต้องหา เคยพักอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานาน อาจจะมีการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและอาจจะเดินทางไปยังต่างประเทศ ส่วนนี้ตำรวจร้องขอต่อศาลด้วยว่าหากศาลอนุญาตให้ประกันตัวขอให้กำหนดเงื่อนไขห้ามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ
ส่วนการให้ปากคำของนายปริญญ์ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุว่า ปฏิเสธทั้งหมดนี้ ส่วนการทำงานของตำรวจขณะนี้อยู่ในชั้นรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีความหนักใจในการทำคดีว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และได้รับข้อสั่งการจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคดี ประชาชนที่ติดตามคดีก็จะเห็นว่าในคดีนี้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมารวดเร็วในการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับแต่ว่าในกรณีที่ผู้ต้องหาเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนออกหมายจับ จึงนำตัวมายื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขังในวันนี้ และเมื่อพิจารณาแล้วว่ามีเหตุให้คัดค้านการประกันตัวจึงยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เพราะฉะนั้นไม่มีความหนักใจดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและเปิดโอกาสให้ทั้งผู้กล่าวหาและผู้ต้องหาในการที่จะให้การหรือนำพยานหลักฐานเข้าสู่กระบวนการ
ส่วนกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตอนนี้อดีตรองหัวหน้า กำลังมีความพยายามเสนอเงินจำนวนมากให้เหยื่อเพื่อจบคดี และให้อยู่อย่างเงียบๆห้ามให้สัมภาษณ์” นายปริญญ์ ไม่ได้ตอบประเด็นนี้ ตอบเพียงว่า “วันนี้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม” นั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุว่า ในส่วนคนที่ยังไม่มาแจ้งตนเองก็ให้ความเห็นอะไรไม่ได้แต่ส่วนที่แจ้งความแล้วพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาหมดแล้วรวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้องยังไม่เห็นว่าจะมีปัญหาในคำให้การที่สอบไว้ ทำให้การที่สอบไว้เป็นพยานหลักฐานอยู่แล้วความเคยตามหาว่าอย่างไรและสืบสวนหาพยานวัตถุและพยานบุคคลเพิ่มเติมตามคำให้การของผู้กล่าวหาไว้แล้วยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่น่ากังวล
เมื่อถามว่าในคดีเกี่ยวกับการข่มขืนจะสามารถดำเนินการเอาผิดได้จริงหรือไม่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ระบุว่าตำรวจทำตามอำนาจหน้าที่เพื่อพิสูจน์การกระทำผิดของผู้ถูกกล่าวหาที่ และยังบอกไม่ได้ว่าได้พยานหลักฐานอะไรมาบ้าง