‘สหวิช ขำเปี่ยม’ ดีเอ็นเอความเหนียว ‘ผู้เป็นพ่อ’ เต็มกาย

DST.Special Report : เขาคือ ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ ‘ช้างศึกยุทธหัตถี’ สุพรรณบุรี เอฟซี ยังไม่เป็นช้างล้ม ในเกมที่ต้องบุกไปเยือน ‘กว่างโซ้งมหาภัย’ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด สำหรับ ‘เจ้าเยี่ยม’ สหวิช ขำเปี่ยม นายทวารสโมสรเมืองขุนแผน

‘สหวิช’ บุตรแห่ง ‘ชัยยง ขำเปี่ยม’ โคตรตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทย เซฟจุดโทษสำคัญในเกม โดยการปฏิเสธลูกยิงของ ‘เจ้าเฟย’ ศิวกร เตียตระกูล มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติ จอมทัพของเจ้าบ้าน ทำให้ ‘ช้างศึกยุทธหัตถี’ มีของติดไม้ติดมือออกจากยูไนเต็ด สเตเดี้ยม

ขณะที่ตลอดทั้งเกม ‘เจ้าเยี่ยม’ ยังทำหน้าที่อารักขาตาข่ายไม่ให้สั่นไหวได้หลายครั้ง

ขณะที่ก่อนหน้านั้นในเกมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ลูกชายคนโตของ ‘ชัยยง’ ได้รับคำชมล้นหลาม จากการทำหน้าที่ปัดเป่าลูกยิงจากฝ่ายตรงข้าม ราวกับมีมือมากเท่ากับทศกัณฐ์ ทำให้หารแต้มกับ ‘กิเลนผยอง’ ได้

การที่ ‘ช้างศึกยุทธหัตถี’ มีแต้มติดมือ ใน 2 เกมสำคัญ ทำให้พวกเขายังอยู่บนเส้นทางของการอยู่รอด เพราะ 3 เกมที่เหลือจะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองถึง 2 นัด

นัดที่ 28 เปิดสนามกีฬาสุพรรณบุรี หวดกับ ‘เขี้ยวสมุทร’ สมุทรปราการ เอฟซี เกมสำคัญ จะได้ตัดแต้มกันเลย ส่วน นัดที่ 29 นั่งรถบัสไปรังสิต เจอกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แอบลุ้นตั๋วเอซีแอลอยู่ ขณะที่นัดสุดท้าย รับอาคันตุกะจากอีสานใต้อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกหมาดๆ 

แม้บุรีรัมย์จะเป็นของแข็ง แต่การที่พวกเขาได้แชมป์แล้ว ทำให้งานของ ‘ช้างศึกยุทธหัตถี’ ไม่หนักเท่าไหร่

ย้อนกลับมาที่ ‘สหวิช’ หมอนี่ไม่ได้ดีเพราะ ‘นามสกุล’ หรือไม่ได้รับคำชมเพราะอานิสงส์ของ ‘พ่อ’ แต่เพราะ ‘ตัวเขาเอง’ 

‘พ่อ’ เป็นเพียง ‘ใบเบิกทาง’ พาเขาไปสู่สิ่งที่ควรจะเป็นเท่านั้น ที่เหลือคือความพยามของตัว ‘เจ้าเยี่ยม’ เอง

สำหรับ ‘สหวิช’ ไม่ใช่แข้งดาวรุ่งเพิ่งแจ้งเกิดอะไร ปีนี้เขาอายุ 27 ปีแล้ว 

เป็นเด็กฝึกของ ‘กิเลนผยอง’ เคยเล่นให้กับหลายสโมสร ทั้งนนทบุรี เอฟซี, ศุลกากร ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เกษตรศาสตร์ เอฟซี และย้ายมาอยู่กับสุพรรณบุรี ในปี 2020

เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของ ‘โค้ชอู๊ด’ สระราวุฒิ ตรีพันธ์ สมัยอยู่นนทบุรี เอฟซี

‘สหวิช’ เป็นผู้รักษาที่ไขว่ขว้าโอกาสเก่ง และเป็นคนที่ไม่ค่อยปลดโอกาสหลุดลอยเมื่อมาถึงมือ 

ย้อนกลับไปตอนอยู่กับนนทบุรี เอฟซี เข้ามาสู่ทีมในจังหวะที่นายทวารมือหนึ่งประสบการณ์บาดเจ็บ นิ้วหัก เขาถูกส่งลงสนามและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสมชื่อ

หลังจากนั้นได้รับการผลักดันให้ลงตัวจริง และยึดมือหนึ่งของ ‘อีกานนท์’ ได้สำเร็จ

เป็นนายทวารที่มีจุดเด่นในลูกกลางอากาศ และมักเซฟจังหวะอันตรายได้อยู่บ่อยๆ 

ขณะที่ในสีเสื้อสุพรรณบุรี เอฟซี ‘เยี่ยม’ นั่งในซุ้มม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ แต่ปรากฏว่า ในเกมกับราชบุรี มิตรผล เอฟซี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ‘แพทริก เดย์โต’ นายทวารมือหนึ่งสัญชาติฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ ต้องหามออกจากสนาม โอกาสของ ‘เจ้าเยี่ยม’ จึงมาถึง

และเป็นอีกครั้งที่เขาแสดงให้เห็นว่า ตระหนักถึงความสำคัญของโอกาส เพราะสามารถทำหน้าที่แทน ‘เดย์โต’ ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ขณะเดียวกัน อย่างโดดเด่นอย่างมากในเรื่องจังหวะเซฟ โดยเฉพาะ 2 เกมหลังสุด

ถึงตรงนี้ ยังตอบไม่ได้ว่า เขาจะไปไกลเท่ากับผู้เป็นพ่อมั้ย แต่ที่รู้ๆ หมอนี่ได้รับดีเอ็นเอและยีนส์เด่นมาจากผู้เป็นพ่อโดยตรง

นี่สินะที่เขาบอกว่า เชื้อไม่ทิ้งแถว.

____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Suphanburi FC

แสดงความเห็น