รมว.ยุติธรรม ลุยเมืองคอนจัดแก้หนี้ คนแห่ร่วมงานแน่น พร้อมมอบเงินเยียวยา 3 ลบ.

รมว.ยุติธรรม ลุยเมืองคอนจัดแก้หนี้ คนแห่ร่วมงานแน่น พร้อมมอบเงินเยียวยา 3 ล้าน ยันนายกฯไม่เคยทอดทิ้งรับรู้ปัญหา พยายามหาทางช่วยอย่างต่อเนื่อง ชี้กระทรวงทำงานหนักบริการชาวบ้านให้เข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม

ที่โรงแรมเดอะทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนครั้งที่ 4 และยุติธรรมพบประชาชน โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายรงค์  บุญสวยขวัญ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ  นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาชนร่วมงานอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีการตรวจหาเชื้อก่อนเข้างานทุกคน

นายสมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่กระทรวงยุติธรรม ได้มาร่วมแก้ปัญหาให้ชาวนครศรีธรรมราช จากผลกระทบจากหนี้สิน ซึ่งที่ผ่านมา จ.นครศรีธรรมราช พบปัญหาจากโควิด รวมทั้งปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และยังมาช่วยเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา ตนขอฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินนโยบายดีๆในการช่วยเหลือชาวบ้าน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เหตุผลที่เลือก จ.นครศรีธรรมราช ในการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน ครั้งที่ 4 เพราะมีพี่น้องประชาชนใน จ.นครศรีธรรมราช จ.กระบี่ และ จ.ตรัง ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของการไกล่เกลี่ยหนี้สิน 11,376 ราย แบ่งเป็น ผู้เป็นลูกหนี้ก่อนฟ้อง 8,857 ราย มูลค่าหนี้ 809 ล้านบาท และผู้เป็นลูกหนี้หลังฟ้อง 2,519 ราย มูลค่าหนี้ 916 ล้านบาทเศษ  รวมมูลค่าหนี้รวม 1,700 ล้านบาท ตนเข้าใจว่าเวลานี้พี่น้องชาวปักษ์ใต้ได้รับความเดือดร้อนในหลายด้าน จนทำให้เกิดภาระหนี้สิน ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาลที่เดินทางมา ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยทอดทิ้ง เรารู้รับทราบปัญหา เช่น การปลูกยางพารา การปลูกปาล์ม ที่เกิดภาวะควบคุมราคาไม่ได้ ช่วงราคาดีก็มีกำไร ช่วงไหนไม่ดีก็น้ำตาแทบไหล ส่วนการประมงวันนี้ แม้หาวัตถุดิบได้มาก แต่การส่งออกไม่กระเตื้อง ทุกอย่างล้วนเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทุกๆคนเดือดร้อน แต่วันนี้ การเดินทางมาเปิดงานมหกรรม ก็หวังว่าประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด และพอบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่มาเข้าร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครั้งที่ 4 อาทิ กองทุนเงินให้กูยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ท จำกัด (มหาชน) บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย  ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง จำกัด และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมทำงานหนักเพื่อประชาชนในหลายด้าน หลายมิติ โดยยึดประโยชน์ของประชาชน ทั้งในเรื่องการเสนอกฎหมาย การปราบปรามยาเสพติด และที่สำคัญคือการบริการประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งการไกล่เกลี่ยนี้เหมือนเป็นลักษณะคล้ายคำพิพากษาของศาล ใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้

“ผมขอยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช กระบี่ และตรัง ผมได้นำหน่วยงานทั้งหมดที่มีของกระทรวงยุติธรรม ลงให้ความรู้และบริการ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ทุกๆท่าน ซึ่งที่ผ่านมาเราบูรณาการร่วมกันบริการประชาชนอย่างรวดเร็ว สุดท้ายนี้ รัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล มีความห่วงใยประชาชน และพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผมหวังว่าการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนในครั้งที่ 4  จะทำพี่น้องคลายทุกข์ในปัญหาหนี้สินได้บ้าง” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา 43 ราย รวมเป็นเงิน 3,199,869 บาท และมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน 27 ศูนย์ โดยศูนย์นี้จะช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาในข้อพิพาท คอยไกล่เกลี่ยตั้งแต่ระดับชุมชน โดยเรื่องที่สามารถขอรับการช่วยเหลือคือ ไกล่เกลี่ยหนี้สิน ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ไกล่เกลี่ยคดีมรดก ไกล่เกลี่ยรุกล้ำพื้นที่ ไกล่เกลี่ยคดีชนแล้วหนี ไกล่เกลี่ยคดีแพ่งวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ไกล่เกลี่ยคดีอาญาความผิดลหุโทษโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และได้เดินชมบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ

ต่อมานายสมศักดิ์ ได้ร่วมการไกล่เกลี่ย โดยรายแรกเป็นลูกหนี้ก่อนฟ้อง ของกยศ. กู้เงินมา 190,000 ส่งไป 110,000 ผลการเจรจรา กยศ.ลดเงินต้นให้เหลือ 30,000  บาท และลูกหนี้ขอผ่อนงวดละ 3,000 บาท อีกรายเป็นลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา ของ โตโยต้า ลิซซิ่ง กู้ซื้อรถรวมดอก 740,000 บาท ผ่อนไปแล้ว 500,000 บาท แต่ขาดส่งจนถูกยึดรถ ผลการเจรจรา โตโยต้า ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับให้เหลือต้องชำระเพียง 30,000 บาท

แสดงความเห็น