ป.ป.ช. โชว์ผลงานสอบปกปิดทรัพย์สิน-ร่ำรวยผิดปกติ 5 เดือน ฟัน 4 เรื่อง มูลค่าเสียหายรวม 151 ล้าน 

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลงานด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินในช่วงเดือน ต.ค.64 – ก.พ.65 ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของรายการทรัพย์สินและหนี้สินจำนวน 2,971 บัญชี โดยแยกเป็นสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลาง 3,536 บัญชี สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด 22,435 บัญชี และได้ดำเนินการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินโดยติดประกาศที่สำนักงานป.ป.ช.ส่วนกลางและสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัด พร้อมกับเปิดเผยทางเว็บไซต์

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 65 ได้มีการชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 1 เรื่อง คือ กรณีนายมโน ชูนุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา จังหวัดพังงา โดยได้มีมติส่งให้ศาลที่มีเขตอำนาจวินิจฉัยในปี 65 นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นหรือคำวินิจฉัยว่าผู้ใดร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 3 เรื่อง มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 151,067,518 บาท ได้แก่ 1. ชี้มูลดาบตำรวจสายัณ อบเชย ผู้บังคับการหมู่กลุ่มงานวิชาชีพและเชียวชาญกองโยธาธิการ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 97,616,150 บาท โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ (แฟลต) ขนาด 30 ครอบครัว สูง 5 ชั้น จำนวน 163 หลัง ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยดาบตำรวจสายัณตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับเงินจากผู้รับจ้างก่อสร้างจำนวน 91,618,000 บาท แต่ดาบตำรวจสายัณได้มีการโอนหรือยักย้ายถ่ายเทไปยังบัญชีเงินฝากของตนเอง หรือบัญชีเงินฝากของคู่สมรสจำนวนหลายครั้ง จนกระทั่งมีการถอนเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 10 แปลง เมื่อพิจารณาจากรายได้และการแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประกอบกับประวัติการรับราชการแล้วมีรายได้และฐานะทางการเงินไม่สัมพันธ์กับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น

2.ชี้มูลนายปัญญา เขียวธง นายกเทศมนตรีตำบลต้นธง จังหวัดลำพูน จากการไต่สวนพบว่า นายปัญญามีทรัพย์สินมากผิดปกติ มีทรัพย์เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้รับทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูล อันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ มูลค่ารวม 960,000 บาท และ 3.ชี้มูลนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ จากการตรวจสอบพบว่า นายฉัตรณรงค์มีทรัพย์สินที่ไม่พึงวิสัยจะมีได้เมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง จำนวน 52,491,368 บาท อาทิ บัตรเครดิตมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 34 ล้านบาท ผ่อนรถยนต์เบนซ์หลายคัน เงินฝากคู่สมรสมี 9.4 ล้านบาท และมีเงินเพิ่มขึ้นในบัญชี 7 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงและให้เหตุผลกับ ป.ป.ช.ได้

แสดงความเห็น