DST.Special Report : นี่คือ นักเตะที่เร่าร้อนไม่แพ้อุณหภูมิในฤดูร้อนของประเทศไทยที่สามารถแผดเผาผู้คนได้ยามนี้
นี่คือ ดาวเตะที่อายุอานามปาเข้าไป 33 ปี แต่ควบตะบึงในสนามราวกับเด็กหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆ
นี่คือ คนที่น่าจะยิงประตูเฉียบคมมากที่สุดในวินาทีนี้ของทัพ ‘ฉลามชล’ ชลบุรี เอฟซี ยุคเบบี้ชาร์คคลองเมืองชลครึ่งค่อนทีม
เขาคือ ‘ยู พยอง ซู’ กองหน้าอดีตดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ปัจจุบันครอบครองเสื้อหมายเลข 7 ของอดีตแชมป์ไทยลีกแห่งชายหาดบางแสน
หลังผ่านไป 26 นัด ‘ยู พยอง ซู’ ซัดให้ชลบุรี ภายใต้การปกครองแผนการเล่นของ ‘โค้ชเตี้ย’ สะสม พบประเสริฐไปแล้ว 10 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของทีม
ดาวยิงพลังโสม ถลุงประตูแซงคู่หูในแดนหน้าอย่าง ‘เดนนิส มูริลโล’ ที่ทำได้ไป 9 ประตูไปแล้ว
ตรงกันข้าม จากเดิมต้นฤดูกาล ‘มูริลโล’ คือ หัวหมู่ทะลวงฟัน แบกความหวังของกองทัพฉลามในการออกล่าเหยื่อ ในขณะที่ ‘ยู พยอง ซู’ ในโมงยามนั้นยังดูเหมือนยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่
แต่ปัจจุบัน หมอนี้กลายเป็น ‘เดอะแบก’ ในแดนหน้า รับหน้าที่ผลิตสกอร์เป็นหลักไปเสียแล้ว
ในขณะเดียวกัน ‘ยู พยอง ซู’ ยังเล่นเข้าขารู้ใจกับ ‘ฝ่าพระบาท’ ฟาอิค โบลเกียห์ ตัวจี๊ดริมเส้น หลานชายสุลต่านแห่งบรูไน ในเวลาอันรวดเร็ว
ไม่ว่า ‘ฟาอิค’ ครอสบอลไปทางไหน ประหนึ่งว่า ‘ยู พยอง ซู’ จะรู้การณ์ล่วงหน้าได้ แล้วไปยืนรอจบสกอร์อยู่ตรงนั้นแบบถูกที่ ถูกเวลาเสมอ
กลายเป็น ‘ดูโอ้’ ที่ทำงานประสานกันได้อย่างกลมกล่อมลงตัวยิ่งนัก
‘ยู พยอง ซู’ ไม่ได้รูปร่างสูงโปร่งแต่ประการใด แต่กลับมีสกิลการใช้หัวที่เป็นเลิศไม่เป็นรองพวกยักษาทั้งหลายเลย จำนวนประตูจากการลูกโหม่งไม่น้อยกว่าฝ่าเท้าทั้งสองข้าง
อดีตกองหน้าโสมขาว มีพิษสงทั้งในกรอบและนอกกรอบเขตโทษ สามารถเช็กบิลคู่แข่งได้เสมอ
จุดเด่นของเขาคือ การยืนถูกที่ถูกเวลา ใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งคือคุณสมบัติอันพึงประสงค์ของกองหน้าในลำดับต้นๆ
หลังๆ มานี้ นัดไหนที่ชลบุรีตื้อๆ ร่อแร่ ก็ได้หมอนี่เป็นคนกอบกู้ หรือปลดเปลื้องผลสกอร์ให้บ่อยครั้ง อย่างในนัดพลิกนรกสยบ ‘เขี้ยวสมุทร’ สมุทรปราการ ซิตี้ ในเกมล่าสุด 2-1
ไม่แปลกใจเลย ทำไมชลบุรี เอฟซี ถึงอยากจะพราก ‘ยู พยอง ซู’ จากอ้อมอกอยุธยา ยูไนเต็ด ตั้งแต่จบเลกแรกในฤดูกาลก่อนนัก เพียงแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่สมหวัง
‘ยู พยอง ซู’ ในยูนิฟอร์มกรุงเก่า ยิงทุกนัด ทุกรูปแบบ ก่อนจะจารึกวีรกรรมเอาไว้ในไทยลีก 2 เมื่อปีก่อนไว้ถึง 20 ประตู
และทันทีที่ฤดูกาลรูดม่าน ‘ยู พยอง ซู’ จึงเป็นกองหน้ารายแรกๆ ที่ชลบุรีรับไปปิดบิลทันที
จะว่าไปมันเสี่ยงมากๆ กับการไปดึงกองหน้าที่แม้จะฟอร์มระห่ำ เพื่อแลกกับโควตาต่างชาติ 1 ราย เพราะต้องไม่ลืมว่า นั่นคือเวทีลีกพระรอง คุณภาพของลีกยังมีความแตกต่างกันอยู่ แล้วยังไม่รู้ว่า ‘ยู พยอง ซู’ ในวัย 30 กว่าขวบจะยังไหวมั้ย
อีกทั้งจากสถิติที่ผ่านมา นักเตะเกาหลีใต้ในตำแหน่งกองหน้าบนอาณาจักรไทยลีกไม่ค่อยเวิร์คสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเด่นในตำแหน่งกองกลางและกองหลัง
แต่ชลบุรีพร้อมเสี่ยงกับสิ่งนี้
ถึงตรงนี้คงต้องยอมรับจริงๆ ว่า ‘ยู พยอง ซู’ คือ กองหน้าสัญชาติเกาหลีใต้ที่น่าจะดีที่สุดในไทยลีกในรอบสิบปีนี้.
___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Chonburi Football Club
แสดงความเห็น
