ทนายแม่แตงโม ระบุ ผลการชันสูตร ยืนยัน ร่องรอยบาดแผลไม่พบการทำร้ายร่างกาย ฟันไม่หัก

ทนายแม่แตงโม ระบุ หลังฟังผลการชันสูตร ยืนยัน ร่องรอยบาดแผลไม่พบการทำร้ายร่างกาย ฟันไม่หัก แต่แม่ยังส่งศพชันสูตรรอบ 2 เพื่อความโปร่งใส เผยตำรวจยังรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานอีก 19 ชิ้น ก่อนพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติมได้หรือไม่ ส่วนวันที่ 16 มี.ค.หมอพรทิพย์ นัดแม่ดูศพ-ฟังผลชันสูตร อีกครั้ง

นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม นิดา พร้อมกับทีมทนายความ ทั้ง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย และทนายเดชา กิตติ​วิทยานันท์ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจากใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมงในการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 และชุดคลี่คลายคดี รวมถึงฟังรายงานผลการชันสูตรพลิกศพของ แตงโม นิดา

โดยทนายเดชา บอกว่า วันนี้หมอนิติเวชตำรวจ ได้ตอบคำถามทุกข้อสงสัยของแม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการถูกตีหัว ฟันหัก ฟันหลอ ตา และบาดแผลต่างๆ ซึ่งได้ดูแล้ว ‘ไม่พบว่ามีการฟันหักตามที่เป็นข่าว ฟันปกติ’ และเรื่องการทำร้ายร่างกายต่างๆ ก็ไม่มี  ซึ่งบาดแผลลึกๆที่พบที่ขา ได้มีการนำชิ้นเนื้อไปตรวจ และจากการตรวจสอบและดูภาพแล้ว เป็นเส้นเอ็นไม่ได้ลึกไปถึงกระดูก และบาดแผลเกิดจากของมีคม ซึ่งเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่แพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดบนเรือหรือ หลังจากตกเรือ และตำรวยยังไม่มีการสรุปว่าเกิดจากของมีคมประเภทใด

ส่วนที่ตาถลน ลิ้นจุกปาก ก็เป็นเรื่องปกติ ของการเน่าเปื่อย ไม่พบรอยช้ำตามที่เป็นข่าว

ส่วนภาพศพที่หลุดรอดออกไปก่อนหน้านี้ และเกิดการตั้งข้องสงสัย เป็นภาพที่ยังไม่ทำความสะอาดศพ ทำให้เหมือนมีรอยฟกช้ำ เหมือนถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ จะมีการถ่ายภาพ ก่อนและหลังชันสูตร ซึ่งก่อนชันสูตรจะต้องทำความสะอาดร่างก่อน ทั้งนี้เพื่อพิสูจน์ว่า ร่างกายทั้งหมดถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ และแพทย์มีการลอกหนังออกมาทั้งหมด พบว่า ไม่มีรอยช้ำเลย ซึ่งถือว่าวันนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มีการอธิบายผลการชันสูตรโดยละเอียด ขณะที่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ แต่บาดแผลไม่ได้ทำให้เสียชีวิต

ทั้งนี้ จากได้หารือคุณแม่แตงโม ก็ยังยืนยันเดินหน้า ในการชันสูตรศพซ้ำ เพื่อความโปร่งใส ซึ่ง ทางนิติเวชตำรวจก็ยินดีเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในสังคม เพราะหลายคนยังแคลงใจในการทำงานของตำรวจ ซึ่งถ้าผลชันสูตรรอบที่2 ใกล้เคียงกัน ก็ไม่มีผลต่อรูปคดี แต่ถ้าผลขัดกันก็ขึ้นกับพนักงานสอบสวนว่าจะเลือกผลการชันสูตรใด

ทนายเดชา ยังพูดถึง ความคืบหน้าทางคดีในการสืบสวน ที่มีทั้ง ผบช.ภ.1 และชุดสืบสวน เข้าร่วมชี้แจงด้วย โดยได้ทำการสอบปากคำไปแล้วเกือบ 100 ปาก  ตรวจสอบกล้องวงจรปิด มีจำนวนมากจัดเป็นกลุ่ม และมีการแบ่งชุดตรวจสอบคลิปกว่า 200 คลิปจากโซเชียลนำไปวิเคราะห์ข้อมูล และปัจจุบันทำการสืบสวนอยู่

ส่วนภาพวงจรปิดที่แตงโมตกน้ำ ตนเองยังมาให้ดู แต่ทราบว่าอยู่ระหว่างการนำภาพไปใช้ระบบ AI เข้ามาทำให้ชัดขึ้น

ส่วนงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานผู้เชี่ยวชาญ และยังรอผล พิสูจน์หลักฐาน อีก 19 รายการเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี โดยตำรวจจะยังไม่สรุปสำนวนคดี และตอนนี้ยังมีการแจ้งข้อหาเพียงแค่ข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ยังรอผลของพิสูจน์หลักฐาน และรอคำให้การเพิ่มเติมต่างๆ ซึ่งถ้ามีพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ทนายเดชา ยืนยันว่า จากการที่ได้พูดคุยสอบถามในรายละเอียดที่สงสัย ทำให้ตอนนี้ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือ และพยานหลักฐาน จนถึง ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ซึ่งก็ยังรอพยานหลักฐานอีก 19รายการอยู่ว่า จะมีพยานหลักฐานที่ทำให้แจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ รวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหาให้การอันเป็นเท็จ และจากการสอบถามชุดคลี่คลายคดี จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้เชื่อว่าคำให้การของทั้ง 5 คนบนเรือว่าจะพูดความจริงทั้งหมด ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำให้การของทั้ง 5 คนบนเรือด้วย ส่วนกรณีประเด็นการปัสสาวะท้ายเรือ ตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ ที่นำมาเป็นประเด็นในการแจ้งข้อกล่าวหา โดยจะเป็นการสืบพยานในชั้นศาลอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวพอทราบรายละเอียดแล้วแต่ไม่สามารถให้รายละเอียด

ส่วนกรณีการเข้าเครื่องจับเท็จ  ทนายเดชา บอกว่า มีการใช้แน่นอน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ จะต้องรอรวบรวมหลักฐานให้ครบก่อน แล้วจะมีการใช้เครื่องจับเท็จ

ทั้งนี้ทนายเดชา อยากฝากสังคมด้วยว่า ถ้ารักแตงโมจริง อย่าปล่อยข่าวไม่รู้ที่มาที่ไป อย่างคลิปเหมือนดึงผม เป็นคลิปที่ถ่ายหลังจากแตงโมตกน้ำไปแล้ว เป็นเฟกนิวส์

ขณะที่แม่ภนิดา บอกด้วยว่า วันนี้สบายใจขึ้นมากๆเมื่อได้เห็นข้อเท็จจริงจากตำรวจ และไม่ได้คาใจแล้ว แต่สำหรับคุณแม่ ก็ยังคาใจ 5 คนที่อยู่ในเรือ ที่พูดจาไม่ตรงกัน โดยเฉพาะ คำพูดของกระติก ที่ยังโกหก แม้วันนี้แม่จะให้อภัยกระติกไปแล้ว เพราะไม่อยากจะเก็บมารกสมอง ไม่อยากเก็บมาเครียดให้ปวดหัว แต่ก็ยังติดใจ จึงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และการให้อภัย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งสิ่งที่แม่คิดว่ากระติกโกหก อย่างเรื่องว่ายน้ำ ที่อ้างว่าว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งก็ทำให้เชื่อว่า เรื่องอื่นเขาก็ต้องโกหกด้วย และจากการพูดคุยกับกระติกเมื่อวานถือเป็นครั้งแรกที่ กระติกพูดแล้ว หน้าตาเขาดูอ่อนโยนลงและเขามีน้ำตาร้องไห้เสียใจ

ทั้งนี้แม่ยังฝากบอกคนบนเรือด้วยว่า “คนคนหนึ่งตกไปในน้ำ เป็นไปได้เหรอที่จะไม่มีใครเห็นเลย จึงเชื่อว่ามีคนที่ปิดบังไว้ จึงอยากให้มาสารภาพกับตำรวจดีกว่าหนักจะได้เป็นเบาด้วย”

ด้านทนายกฤษณะ ระบุด้วยว่า หลังจากที่ทั้ง 3 คนได้เห็นหลักฐานพร้อมกัน ก็มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อก็จะนำมาวิเคราะห์กัน และได้รับทราบสิ่งที่คาใจทั้งเหตุและผลมาแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อ ทั้งนี้ตำรวจยังไม่มีกำหนดในการปิดคดี ซึ่งตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนไปเรื่อยๆ และตำรวจจะไม่ได้เร่งปิดคดี อะไรที่สังคมสงสัยจะทำทั้งหมด ส่วนการฌาปณกิจก็จะเลื่อนออกไปไม่มีกำหนดเช่นกัน

ทนายกฤษณะ ยังบอกอีกว่า ยังรอหลักฐานในวันพุธนี้ และจะนำมาวิเคราะห์ ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญ  และรอด้วยความหวัง และเชื่อว่าน้องแตงโมก็คงอยากฟังเช่นกัน

สำหรับในวันพุธที่ 16 มี.ค. แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จะเดินทางมาฟังรายงานผลการชันสูตร และมาดูศพของแตงโมอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ก่อนที่แม่ของแตงโมจะย้ายร่างไป ชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต ซ้ำ

แสดงความเห็น