รมว.ยุติธรรม เชื่อ รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ต้องแก้รธน.ให้จบ

รมว.ยุติธรรม เชื่อ รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เพราะต้องแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญให้จบ แนะ ทุกคนอย่าเฉื่อยชาต้องตั้งใจทำงาน กำชับราชทัณฑ์เร่งแก้โควิดเรือนจำหลังครม.อนุมัติงบช่วย 150 ล้าน ให้ดีเอสไอเป็นเจ้าภาพรณรงค์แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังระบาดหนัก

การประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเร็นซ์ โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม ซึ่งเข้าร่วมระบบจากรัฐสภา พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารเข้าร่วมการประชุม

 นายสมศักดิ์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ถึงเรื่องที่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในเรือนจำ ตนจึงขอให้กรมราชทัณฑ์เร่งดำเนินการโดยเร็วให้เกิดประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ผู้คุมและผู้ต้องขัง ส่วนการป้องกันโควิดในเรือนจำการ์ดอย่าตก ขอให้ใส่ใจ อีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้มีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก ตนจึงขอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รณรงค์และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรู้และเข้าใจถึงภัยคุกคามดังกล่าว ขอให้เร่งทำเร่งชี้แจง เพราะเรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก

 นายสมศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งในที่ประชุมว่า ตนมองดูแล้วว่ารัฐบาลมีเวลาครบ 4 ปี เพราะยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไขให้สำเร็จ ก่อนหน้านี้อาจจะมีข่าวปัญหาระหองระแหงในรัฐสภาบ้าง แต่เวลานี้ไม่มีอะไรแล้วเพราะทุกคนต้องช่วยกันเร่งผลักดันกฎหมายสำคัญให้ลุล่วง ดังนั้นตนเชื่อว่าการเมืองจะอยู่ครบ 4 ปีแน่นอน และกฎหมายฉบับสุดท้ายที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ คือ ร่างพ.ร.บ.มาตรการป้องกันการทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า JSOC ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และคนที่ทำงานมีอะไรจะเสนอขอให้เร่งดำเนินการ คนที่มีไฟอยู่ก็เร่งเดินหน้าทำงานเต็มที่ ส่วนคนที่ทำงานเฉื่อยชาและคิดว่าการเมืองจะไปแล้ว ขอให้คิดใหม่ กลับมาตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน  ตนยังเหลือเวลาทำงานอีกประมาณ 1 ปีก็จะเร่งทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมเช่นกัน

แสดงความเห็น