“ประยุทธ์” ร่ายยาว แจง 15 เรื่องงานรัฐบาล จน นพ.ชลน่าน หลับฟัง เปรียบตัวเป็น “พระราม พระลักษณ์” บอกฝ่ายค้านเป็น “ทศกัณฐ์” รู้อยู่แล้วจุดจบจะเป็นอย่างไร ลั่นอย่ากล่าวหาทุจริต หากไม่มีหลักฐาน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงภายหลังที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือข้อเสนอแนะ ต่อคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 152 ว่าขณะนี้มีหลายสถานการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน รัฐบาลพยายามดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งตนไม่ได้ทำคนเดียวมีความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
โดยจากข้อมูลที่ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวมาหลายอย่างยังไม่ลงรายละเอียด ซึ่งหลังจากนี้คณะรัฐมนตรีพร้อมชี้แจง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูล หลายคนในที่นี้อาจมองว่ารัฐบาลและรัฐมนตรีไม่มีความสามารถ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและความเชื่อมั่นของคนทั้งประเทศที่ให้ความสนใจในขณะนี้
ก่อนหน้านี้มีการบอกว่าตนเข้ามาในสภาควรวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ คือตนเล่นบทพระราม พระลักษณ์ อีกฝ่ายเป็นทศกัณฐ์ แต่ตนคิดว่าประเทศชาติไม่ใช่รามเกียรติ์ และเป็นที่ทราบดีว่าท้ายที่สุดจุดจบทศกัณฐ์เป็นอย่างไร ซึ่งตนจะไม่กล่าวอะไรให้เป็นความขัดแย้งหรือไม่พอใจกันอีก จะระมัดระวังอย่างที่สุด
“ผมเคยคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่า ผมเข้ามาสภาฯ ควรจะวางบทบาทให้เหมือน รามเกียรติ์ คือผมคงเล่นฝ่ายบททั้งพระราม พระลักษณ์ทำนองนี้ อีกฝ่ายหนึ่งต้องเล่นเป็นบททศกัณฐ์ใช่ไหม ผมคิดว่าประเทศชาติ ไม่ใช่แบบรามเกียรติ์หรอก แต่ท้ายสุดรามเกียรติ์ ก็รู้อยู่แล้ว ว่าทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้าย อันนี้คือข้อเท็จจริง” นายกฯ กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวมามีประมาณ 15 ประเด็น ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีที่กล่าวหาว่าเรื่องการใช้อำนาจของรัฐบาล พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมในปี 2557 ทุกคนเข้ามาตามรัฐธรรมนูญ มีเพียง 4 คนที่ซ้ำกับรัฐบาลเดิม ส่วนอีก 32 คนเป็นคนใหม่ นโยบายจึงต้องแตกต่างกัน ยืนยันสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องการแก้สถานการณ์โควิด-19 ว่าสามารถชี้แจงได้ วันนี้รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนได้เพียงพอ แม้ช่วงแรกมีปัญหาเรื่องวัคซีนยังไม่พร้อม ความไม่แน่นอนของวัคซีนแต่ละประเภท วันนี้ทุกอย่างออกมาแล้ว ก็สามารถจัดหาได้ครบถ้วน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ
ด้านการท่องเที่ยวนั้น อย่ามองแต่เรื่องเรื่องประมาณ ที่ผ่านมามีการทำโครงสร้างใหม่ๆเพื่อให้จีดีพีเพิ่มขึ้นอย่างไรบ้าง หากตอบได้กรุณาตอบตนด้วย ไม่มีใครทำโดยไม่ดูกฎหมาย มีคำตอบทุกเรื่อง
เรื่องโรคระบาดในสัตว์ ราคาเนื้อหมูแพงนั้น วันนี้ยังแพงอยู่หรือไม่ มีการแก้ไขอย่างไร ปัญหาเกิดจากที่ไหน มีคำอธิบายทั้งหมด แต่สิ่งที่มีการปกปิดคือเหตุใดจึงมีการกักเก็บเนื้อหมูไว้จำนวนมาก ตนยืนยันจะต้องลงโทษตามกฎหมาย ไม่ได้สนับสนุผู้ค้ารายใหญ่ ตนต้องการให้ผู้ค้ารายย่อยเข้มแข็งที่สุด ทุกอย่างต้องอยู่ในกติกา
เรื่องราคาสินค้าประบตัวสูงขึ้น ที่ผ่านมามีสูงขึ้น-ต่ำลง ตามความต้องการตลาดและฤดูกาล วันนี้ให้ตรวจสอบทุกชนิด หลายอย่างแก้ปัญหาได้ทันที ตนไม่เคยโทษโคร มีแต่ให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำงาน
เรื่อง PM 2.5 นายกรัฐมนตรียืนยันว่ามียุทธศาสตร์ชาติ อย่าพูดลอยๆ ว่าจะแก้ PM 2.5 แค่แก้ปัญหาจราจรยังทำให้ตนยังทำไม่ได้ สามารถห้ามรถเก่ามาวิ่งได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกประเทศเป็นแบบนี้ ตนเอาทุกอย่างมาปรับตัว ไม่ได้ทำงานแบบสุขเอาเผากิน เพื่อตอบสนองความพอใจของคนบางกลุ่ม ต้องทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข เป็นความสุขแท้จริง ไม่ใช่ความสุขจอมปลอม การพูดให้คนรักไม่ใช่ตน ตนพูดด้วยความจริงใจ
การแก้ปัญหาเรื่องประมงล้มเหลวนั้นล้มเหลวในส่วนใด เรื่องรายได้ เรื่องที่ส่งเสริมให้ประชาชนทำถูกกฎหมายนั้นล้มเหลวอย่างไรรัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ให้อยู่ภายใต้กติกาเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบนั้นผิดอย่างไร
ส่วนการปฏิรูปการเมืองไม่คืบหน้า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ตนพร้อมกระจายอยู่แล้ว แต่วันนี้การจัดเก็บงบประมาณท้องถิ่นนั้นทำได้มากน้อยเพียงใด จะทำอย่างไรที่จะทำให้ท้องถิ่นมีขีดความสามารถให้เพียงพอ รัฐบาลไม่เคยหวงและพร้อมสนับสนุน มีแต่หาเงินเข้ามาเติมท้องถิ่น เรื่องยาเสพติด วันนี้หลายประเทศก็ชื่นชมประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมยาเสพติดทั้งทางน้ำหรือชายแดน ในจำนวนมาก
สำหรับเรื่องการบริหารงานและส่อไปในทางทุจริตกระทบต่องบประมาณ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าตนไม่เคยทุจริต ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
“อย่ามาพูดคำนี้กับผม หากไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ผมยืนยัน ผมเข้ามาตรงนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ และวันต่อๆไป ถ้าผมยังอยู่ ผมจะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบาย เจตนารมย์และตัวผม”
สำหรับประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในปี 2564 ประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนได้เกิดเป้าหมายที่วางไว้ 100,000,000 โดส ซึ่งวัคซีนที่จะเข้ามาในประเทศไทยจะต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาล หากไม่ตรวจสอบและคัดกรองให้ดีรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนบรรยากาศระหว่างนายกฯ ลุกขึ้นอภิปราย ทีวีรัฐสภา กำลังถ่ายทอด แล้วจับภาพไปที่ นพ.ชลน่าน ปรากฏว่า ได้นั่งหลับ พักสายตา ฟังนายกฯ ชี้แจงประเด็นต่างๆ
