เสรีพิศุทธ์ ซัด ปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ได้ส.ส.โกงเข้าสภาฯ แนะให้ ยุบ กกต.จังหวัด-ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ให้ ตำรวจ-ทหาร เป็นพนักงานสอบสวน เย้ย “นายกฯ” ไม่ยุบสภา-ลาออก เพราะหวั่นไม่ได้คืนสู่อำนาจ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ ในญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ โดยย้ำถึงความล้มเหลวของการปฏิรูประเทศ ด้านการเมือง พบมีผู้แทนราษฎรที่ขาดคุณสมบัติรัฐธรรมนูญเข้าปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ก่อนที่จะถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนั้นยังพบมีส.ส.ที่โกงเข้าสู่สภาฯ กว่า 400 ล้านบาท และล่าสุดพบว่าย้ายพรรค โดยพรรคที่รับเข้าสังกัดไม่ตรวจสอบ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งซ่อม พื้นที่ จ.ลำปาง, จ.นครศรีธรรมราช , จ.ชุมพร และจ.สงขลา พบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นเงินมากถึงรายละ 500 บาท โดยเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจากการตรวจสอบของตน ในกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกผู้ตรวจการเลือกตั้งชี้แจง แต่กลับได้คำตอบว่า ไม่รู้ไม่เห็น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายว่าน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์บอกว่า เลือกตั้งซ่อมสงขลาและชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง เพราะซื้อเก่งกว่า ดังนั้นตนอนุมานได้ว่า ที่จ.นครศรีธรรมราช และที่อื่นๆ พรรคพลังประชารัฐซื้อเก่งกว่าจึงได้ผู้แทน ทั้งนี้การเลือกตั้งซ่อม ที่จ.สมุทรปราการ, จ.ลำปาง และจ.นครศรีธรรมราช ตนส่งพยานหลักฐานให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครบถ้วน กกต. วินิจฉัยว่า เลือกตั้งซ่อมจ.ลำปาง มีมูล แต่นอกจากนั้นยกหมดเพราะไม่มีพยานหลักฐาน ทั้งนี้การวินิจฉัยของกกต.ที่จ.เชียงใหม่ ให้กับส.ส.เพื่อไทย ถวายเงินพระ 2,000 บาท ได้ใบส้ม แต่กรณีวัฒนา มีหลักฐานจ่ายเงินจริง แต่ไม่ได้เป็นคนจ่ายเอง ได้ใบเหลือง เงินที่จ่ายซื้อเสียง เงินจากนรกหรือ ถ้าไม่ได้จากนายวัฒนาได้อย่างไร ทั้งนี้หลักฐานที่ตนเสนอไม่ได้นำมาวินิจฉัย แต่หากเป็นพรรคอื่นคงได้ใบแดง
“การเลือกตั้งเมื่อปี 2537 ที่ผมมีผลงานคดีจับกุมทุจริตซื้อเสียง 11 ล้านบาท ที่จ.บุรีรัมย์ แจก 120 บาท หากได้เลือกตั้ง ค่อยมารับเงินที่เหลือ เวลาผ่านไป30 ปี แทนจะฉลาด ก็โง่ แจก 300 -1,000 บาท ได้ไม่ได้ ไม่รู้พอได้เป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรี ก็โกงกัน ผมอยู่ในสภาฯ รู้เห็นหมด ใครอย่าปฏิเสธ ฝากไปบอกนายกฯ ด้วยว่าขอให้ไปปรึกษาตนโตของบุรีรัมย์ อาจใช้เงินน้อยกว่า และผมขอฝากถามนายกฯ ด้วยว่า ที่เป็นใหญ่มาทุกวันนี้ โกงมาตลอดใช่ไหม เลือกตั้งก็โกง ตำแหน่งก็โกง เอารัดเอาเปรียบคนมาทั้งชีวิตไม่รู้จักพอ เมื่อโกงเองจะสอนให้คนอื่นไม่โกงได้ยังไง ทำให้ดัชนีคอร์รัปชันไทยตกต่ำ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราเสนอแนะวิธีแก้ปัญหาด้วยว่า แก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 ให้ยุบ กกต.จังหวัด เหลือเฉพาะสำนักงาน กกต., ในการเลือกตั้งให้ครู อาจารย์ในพื้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ให้ตำรวจ ทหาร เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุม, สลับตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ให้ปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นชั่วคราว เพื่อลดอิทธิพลในพื้นที่บีบบังคับให้ลูกบ้านซื้อเสียงและ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เป็นพนักงานสอบสวนแม้จะมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ตรวจไม่พบการทุจริตในพื้นที่ ทำให้เสียงงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
“นายกฯ ตอนนี้หมดสภาพแล้ว จิตใจหวั่นไหว ความรู้ไม่มี ความดีไม่ปรากฏประเทศชาติถดถอย ประชาชนยากจน ปีนี้บอกจะทำบัตรคนจนเพิ่ม 20 ล้านคน เป็นผมว่าน่าละอาย แทนที่จะให้จำนวนคนจนลดลงทุกปี หากให้นายกฯ อยู่ต่อไปอาจมีคนจนเพิ่มเป็น 25 ล้านคน ทั้งนี้นายกฯ แม้จะมีอำนาจ แต่พรรคพลังประชารัฐแตก ไม่มีเสียงพอในสภา ต้องหาซื้อเสียงฝ่ายค้านไปเป็นพวก มีคนทาบทามให้ผม พรรคเสรีรวมไทยไปเป็นพวก ขอโทษผมให้ส้นตีนไป หาทำทุกวิธี ผมเชื่อว่าหากยุบสภาฯ ไม่มีทางกลับมา หากลาออกจะเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราย
ทั้งนี้นายชวน ได้ตักเตือนและขอให้ถอนคำว่า ส้นตีน ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอนคำดังกล่าว
นอกจากนั้น นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกชี้แจงต่อคำอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยปฏิเสธต่อกรณีที่การซื้อเสียง ที่มีคลิปภาพเปิดเผย ว่าเป็นเพียงการใช้จินตนาการมากกว่า
แสดงความเห็น
